Thu. Mar 28th, 2024
ธุรกิจโรงแรม

เจาะ 3 เทรนด์อนาคต ขับเคลื่อนธุรกิจโรงแรม (ตอนจบ)

หลังจากฉบับที่แล้ว ได้บอกเล่าถึงรายงาน ‘เทรนด์อนาคตขับเคลื่อนธุรกิจโรงแรม’ ของ ‘อมาเดอุส’ (Amadeus) และ ‘อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป’ (IHG) เกี่ยวกับแนวโน้มสำคัญ 2 ประเด็นแรกจากทั้งหมด 3 ประเด็น ได้แก่ ประเด็น ‘ประเภทห้องพัก’ อาจไม่มีความหมายอีกต่อไป (The Beginning of the End for Room Types) และประเด็น ธุรกิจโรงแรมในโลกเออาร์ (The Rise of Tech-Augmented Hospitality) และอีกแนวโน้มที่ธุรกิจโรงแรมต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กัน คือ การสร้างความประทับใจในทุกมิติ (Achieving Cult Status at Scale)

แม้การบริการสุดประทับใจมักเป็นคุณสมบัติเฉพาะของโรงแรมหรูหรือโรงแรมบูติก แต่รายงานชี้ให้เห็นว่า ในอนาคต โรงแรมทั่วไปก็สามารถมีคุณสมบัตินี้ได้ หากผู้ประกอบการสามารถทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกผูกพันกับโรงแรมได้ โดยโรงแรมที่ต้องการสร้างความรักในแบรนด์ต้องสามารถมอบคุณค่าผ่านประสบการณ์ที่น่าประทับใจและไม่เหมือนใคร ซึ่งเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกถึง 73% มองว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าพัก โรงแรมจำเป็นต้องมีความเข้าใจภาพรวมประสบการณ์การเข้าพักของแขกแต่ละคนในแต่ละทริป ตั้งแต่อารมณ์ ความรู้สึก งานอดิเรก ตลอดจนความต้องการในแต่ละช่วงเวลา และต้องสามารถมอบบริการที่พิเศษเหนือความคาดหมาย อันที่จริงนักท่องเที่ยวทั่วโลกถึง 70% ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมจากโรงแรมเกี่ยวกับกิจกรรมที่แปลกใหม่ แต่มีเพียง 20% เท่านั้นที่บอกว่าได้รับคำแนะนำเหล่านี้จากโรงแรม

หากผู้ประกอบการโรงแรมต้องการจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับแขกผู้เข้าพักอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมทุกส่วนของธุรกิจ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ เทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนโดยข้อมูล เพราะ ‘ข้อมูล’ เป็น หัวใจหลัก ที่จะช่วยให้โรงแรมสามารถหาวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้แขกแต่ละคนรู้สึกพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการมอบสิทธิประโยชน์ ประสบการณ์แปลกใหม่ หรือรางวัลต่าง ๆ

ในงานวิจัยนี้ยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงและปัญญาประดิษฐ์ โดยหากไม่มีระบบหลังบ้านที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการข้อมูลจำนวนมาก การส่งข้อมูลไปยังที่ที่ต้องการ และการลดขั้นตอนการทำงานของระบบได้ ก็คงเป็นเรื่องยากที่ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมจะสามารถตอบสนองความต้องการของแขกผู้เข้าพักในอนาคตได้

นอกเหนือจากรายงานเกี่ยวกับเทรนด์อนาคตขับเคลื่อนธุรกิจโรงแรมของอมาเดอุสและเครือ IHG แล้ว ยังมีอีกผลการศึกษาน่าสนใจของ ‘เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป’ แพลตฟอร์มการท่องเที่ยวระดับโลก เปิดเผยถึงความสำคัญของการลงทุนด้านเทคโนโลยีสำหรับโรงแรม หลังได้สำรวจผู้ประกอบการมากกว่า 1,200 ราย ระบุว่า “เครือโรงแรม 77% ให้ความสำคัญและมีแนวโน้มจะลงทุนด้านเทคโนโลยีมากขึ้น และมากกว่าผู้ประกอบการที่พักอิสระขนาดเล็กเกือบ 2 เท่า ขณะที่ที่พักอิสระขนาดเล็กกลับมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญต่อการปรับปรุงห้องพักมากกว่าเครือโรงแรม 1.5 เท่า” นับเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ในการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่แตกต่างกันของภาคธุรกิจผู้ประกอบการโรงแรม

ทั้งนี้ การพึ่งพาเทคโนโลยีเริ่มมีความสำคัญเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมการให้บริการที่พัก เนื่องจากโรงแรมเริ่มยอมรับถึงการสร้างความได้เปรียบที่สำคัญทางการแข่งขันผ่านการลงทุนด้านเทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ รายงานล่าสุดโดย Hospitality Technology เผยว่ากว่า 54% ของโรงแรม วางแผนที่จะเพิ่มงบประมาณด้านเทคโนโลยีสำหรับปี 2562 ขณะ 8% วางแผนที่จะลดงบประมาณด้านดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ต้นทุนยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินงานสำหรับผู้ประกอบการโรงแรมเป็นจำนวนมาก เพราะเกือบ 50% ของโรงแรมอิสระขนาดเล็กที่สำรวจ ระบุว่า การตัดสินใจลงทุนด้านเทคโนโลยีขึ้นอยู่กับความสามารถในการซื้อหรือลงทุนและมูลค่าที่ได้รับจากเทคโนโลยี ในทางตรงข้ามมากกว่าครึ่งหนึ่งของเครือโรงแรมกลับให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี ซึ่งสามารถนำไปผนวกเข้ากับระบบปฏิบัติการที่มีอยู่ได้อย่างไร้รอยต่อ

จากการสำรวจโรงแรมอิสระขนาดเล็ก 1 ใน 4 ระบุว่า ความซับซ้อน คือ ปัญหาที่สำคัญสุดในการนำเทคโนโลยีมาใช้ โดย 1 ใน 3 กล่าวว่า ความง่ายดายในการใช้งานมีความสำคัญต่อการประเมินการเลือกใช้โซลูชั่น ดังนั้น เพื่อขจัดอุปสรรคเหล่านี้ เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป จึงเพิ่มประสิทธิภาพแพลตฟอร์มของทางบริษัทฯ เพื่อให้พาร์ทเนอร์มีทรัพยากรที่เหมาะสมในเวลาและสถานการณ์ที่ต้องการ ทั้งยังเป็นโซลูชั่นที่เข้าใจและใช้งานง่ายอีกด้วย

นอกเหนือจากผลสำรวจการลงทุนด้านเทคโนโลยีของธุรกิจโรงแรมแล้ว เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป ยังมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเทรนด์ความต้องการที่พักในประเทศไทยด้วย หลังได้รวบรวมข้อมูลจากแบรนด์การท่องเที่ยวหลากหลายบนแพลตฟอร์มของ เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป พบว่านักเดินทางจากสหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดใหญ่ที่สุดสำหรับไทย โดยความต้องการที่พักเติบโตขึ้นประมาณ 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่จีนคือตลาดใหญ่รองลงมา แซงหน้าญี่ปุ่น ฮ่องกง และเกาหลีใต้ เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากจีนแล้ว อินเดียก็ไต่อันดับขึ้นมา 3 อันดับ โดยขึ้นมาอยู่อันดับที่ 10 ของนักเดินทางต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทยมากที่สุด

ที่น่าสนใจ คือ นักเดินทางจาก ‘จีน’ และ ‘อินเดีย’ มีแนวโน้มจอง ‘ที่พักระดับพรีเมียม’ มากขึ้น โดย 60% ของการจองที่พักโดยนักเดินทางชาวจีน และ 55% ของการจองโดยนักเดินทางชาวอินเดียเป็นการจองที่พักระดับ 4 ดาว และ 5 ดาว ซึ่งเทรนด์การจองนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ของรัฐบาลไทยที่มุ่งเน้นดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับพรีเมี่ยมจากจีนและอินเดียให้มากขึ้น

ด้านเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างกรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวชาวจีนและอินเดียเลือกไปพักผ่อนมากที่สุด มากไปกว่านั้น ยังพบว่าสถานที่ดังต่อไปนี้มีการขยายการเติบโต ได้รับความนิยมด้านการจองที่พักจากนักเดินทางมากถึง 3 หลัก เมื่อเปรียบเทียบอัตราการเติบโตแบบปีต่อปีในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งหัวหิน 110% เกาะพีพี 100% และเกาะหลีเป๊ะ 100% ตามลำดับ

เมื่อเจาะลึกถึงข้อมูลเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวจาก ตลาดเกิดขึ้นใหม่ (Emerging Market) ซึ่งมีการเติบโตน่าสนใจ เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป ยืนยันว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แอฟริกาใต้ และอิสราเอล คือ ตลาดใหม่ระดับไฮเอนด์ที่ผู้ประกอบการด้านที่พักควรลงทุน นักเดินทางจากตลาดดังกล่าวใช้จ่ายค่าที่พัก 15% สูงกว่าและเข้าพักนานกว่าประมาณ 1 วัน เมื่อเทียบกับนักเดินทางต่างชาติทั่วไป ยิ่งไปกว่านั้น 70% ของการจองโดยนักเดินทางจากประเทศเหล่านี้เป็นการจองที่พักระดับ 4 ดาว และ 5 ดาว และยังมียอดใช้จ่ายค่าที่พักรายวันมากกว่านักเดินทางต่างชาติอื่น ๆ 50%

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แอฟริกาใต้ และอิสราเอล ยังนิยมมาพักที่กรุงเทพฯ เพื่อสัมผัสบรรยากาศและเสน่ห์ของเมืองหลวง หรือแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลอย่างภูเก็ต พัทยา เกาะสมุย และเกาะพะงัน

ผู้ประกอบการโรงแรมต่าง ๆ ที่ต้องการเจาะตลาดนักเดินทางระดับไฮเอนด์ ควรตระหนักเรื่องช่วงเวลาหรือฤดูที่มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยข้อมูลรายงานว่านักเดินทางจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ชอบเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเดือนมิถุนายน – กันยายน และธันวาคม – มกราคม ในขณะที่นักเดินทางจากอิสราเอลและแอฟริกาใต้มักจะเดินทางท่องเที่ยวในเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์

ที่มา : นิตยสาร Thai Hotel & Travel Magazine ฉบับเดือน ธันวาคม 2019 – มกราคม 2020

Leave a Reply

Or

Your email address will not be published. Required fields are marked *