เมื่อความเชื่อ ศรัทธา และการท่องเที่ยวหลอมรวมกัน เกิดเป็นกระแส ‘ท่องเที่ยวสายมู’ ที่ดูอย่างไรก็ยืนยงคงกระพัน ไม่มีวันหายไปจากเทรนด์ตลาดไทยเที่ยวไทยแน่นอน จึงขอชวนผู้อ่านทุกท่านมาร่วมกันสำรวจแหล่งท่องเที่ยวสายมู – สายบุญทุกภาคทั่วเมืองไทย ว่าไฮไลต์ที่กำลังเป็นกระแสในขณะนี้ … มีที่ไหนกันบ้าง
เริ่มกันที่จังหวัดเชียงใหม่ เชื่อเหลือเกินว่าชื่อของ ‘วัดพระธาตุดอยคำ’ วัดเก่าแก่อายุกว่า 1,400 ปี ที่สร้างมาตั้งแต่ยุคพระนางจามเทวี ติดอันดับต้น ๆ ใน Bucket List ของเหล่าสายมู เมื่อมาเยือนเมืองเหนือสุดฮิป อยากขึ้นดอยไปกราบไหว้ ‘หลวงพ่อทันใจ’ ขอพรแบบทันใจกันสักครั้ง ทั้งเรื่องโชคลาภ หน้าที่การงาน และเรื่องธุรกิจ ด้วยแรงอธิษฐานตั้งมั่น บอกกล่าวสิ่งที่ต้องการครั้งละหนึ่งเรื่องเท่านั้น เมื่อสำเร็จตามปรารถนา ให้นำพวงมาลัยดอกมะลิที่สามารถหาซื้อได้ตลอดเส้นทางก่อนขึ้นมาถึงวัด หรือ สั่งไว้ล่วงหน้ากับเจ้าของร้านที่รู้จัก มาถวายตามจำนวนที่เคยบอกกล่าวหลวงพ่อทันใจไว้ มีตั้งแต่ 50 พวงขึ้นไป หรือตั้งแต่หลักพัน หรือ หลักหมื่นพวงขึ้นอยู่กับกำลังของคนขอ
อีกแหล่งท่องเที่ยวสุดอันซีนที่ไม่อยากให้รีรอ ต้องไปเยือนให้ได้ คือ ‘วัดหลวงขุนวิน’ ตั้งอยู่ในอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านนาโบราณ ตระการตาจนไม่อยากเชื่อว่าจะมีวัดเล็ก ๆ ซ่อนตัวอยู่ในป่าลึก ทั้งวิหารไม้สัก บันไดนาคสีขาวที่มีลวดลายเรียบง่ายทว่างดงามยิ่ง ขณะที่พระประธานของวัดซึ่งเป็นพระยืนปางถวายเนตรถูกสลักจากไม้ ก็แสนจะเข้ากันกับบรรยากาศรายล้อมของแมกไม้เขียวขจี ทั้งนี้ต้องอาศัยกำลังและศรัทธาแรงกล้าในการฝ่าฟันหนทางขึ้นเขา เพราะบางช่วงสูงชัน ถนนยังเป็นทางลูกรังสลับกับทางปูน
หากมีโอกาสแวะเวียนไปที่จังหวัดลำปาง ห้ามพลาดเส้นทางนมัสการ ‘พระใหญ่ไดบุตสึ’ แห่งวัดพระธาตุดอยพระฌาน อำเภอแม่ทะ สร้างขึ้นเมื่อปี 2562 เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิศิลปะแบบญี่ปุ่น ตั้งโดดเด่นมองเห็นแต่ไกลบนเนินเขา มีลักษณะคล้ายกับองค์พระไดบุตสึแห่งวัดโคโตคุ เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น ให้อารมณ์เหมือนได้ไปเที่ยวแดนซามูไรอย่างไรอย่างนั้น และมีส่วนทำให้วัดพระธาตุดอยพระฌานกลายเป็นแลนด์มาร์กชื่อดังของจังหวัดลำปางในตอนนี้
ต่อกันด้วยภาคอีสาน ห้ามพลาดเด็ดขาดสำหรับ ‘ถ้ำนาคา’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ สะท้อนความเชื่อเชื่อมโยงระหว่างแม่น้ำโขงกับพญานาค ความสวยงามแปลกตาอันน่ามหัศจรรย์ของหินก้อนใหญ่และผนังถ้ำคล้ายพญานาคหรืองูใหญ่นอนขดตัวนั้น กลายเป็นกระแสบอกกล่าวแบบปากต่อปาก ชวนให้ผู้เลื่อมใสในพญานาคอยากไปเห็นกับตาสักครั้ง
หากใครสนใจไปเยือนถ้ำนาคา จำเป็นต้องฟิตร่างกายให้พร้อมกันสักนิด เพราะต้องเดินเท้าขึ้นไปเท่านั้น บางคนอาจใช้เวลา 1 – 2 ชั่วโมง หรือ ใช้เวลา 3 – 4 ชั่วโมงตลอดทริปเป็นอย่างต่ำ จึงต้องเตรียมน้ำดื่มและอาหารขึ้นไปเองเพื่อเสริมกำลังวังชา ที่สำคัญ คือ เตรียมใจพร้อมฟันฝ่าความเหนื่อยยากในการเดินทางขึ้นลงที่ทั้งแคบและชันในบางช่วง ว่ากันว่าด้วยพลังแห่งศรัทธาที่มีต่อถ้ำนาคา ทำให้ใครหลายคนรู้สึกตัวเบายามขึ้นเขา เหมือนได้แรงใจจากพญานาคคอยส่งจนถึงจุดหมายกันเลยทีเดียว
อีกเส้นทางมหาโชคลาภในภาคอีสาน คือ ‘พญาเต่างอย’ รูปปั้นเต่าชื่อดังในอำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร สร้างเสร็จเมื่อปี 2555 ตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะ หลังที่ทำการอำเภอเต่างอย จากตำนานความเชื่อของชาวสกลนคร เล่าลือสืบกันมานานว่าสมัยก่อน ชาวบ้านหนีภัยสงครามมาถึงลุ่มลำน้ำพุง เห็นเต่าเกาะโขดหินอยู่ริมฝั่ง จึงตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัย เพราะพิจารณาแล้วว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์แห่งความอุดมสมบูรณ์และอยู่กันอย่างสงบสุขเรื่อยมา ปัจจุบันผู้คนจากทุกสารทิศต่างหอบพลังศรัทธามาขอพรกันอย่างล้นหลาม เพราะเชื่อว่าจะให้โชคลาภและอายุยืนยาวเหมือนเต่านั่นเอง
จังหวัดสกลนครมีรูปปั้นพญาเต่างอยแล้ว ที่ภาคตะวันออกก็มี ‘วัดหนองจับเต่า’ เช่นกัน ตั้งอยู่ในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมตระการตาของอุโบสถสีขาวศิลปะปูนปั้น รายรอบด้วยพญานาคสีแดง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาขอพรเรื่องโชคลาภจากพญาเต่าเรือน เชื่อกันว่าหากใครได้ลอดใต้ท้องพญาเต่าเรือนแล้ว จะมีอายุยืน หายจากโรคภัยไข้เจ็บ สุขภาพแข็งแรง
หากมีโอกาสแวะอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ที่นี่มี ‘สำนักสงฆ์เขาพระครู’ สถานที่ปฏิบัติธรรมอันเงียบสงบซ่อนตัวอยู่ เป็นอีกจุดที่ผู้คนต่างมากราบนมัสการขอพระพุทธรูปปางลีลานาคะบารมี นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์ คือ จุดชมวิวแบบพาโนรามาของอำเภอศรีราชา ถือเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่ควรเช็กอินสักครั้ง และถ้าอยากเห็นเมืองศรีราชาในมุมมองแปลกใหม่ เชื่อว่าถูกใจคนรักการถ่ายรูปแน่นอน เพราะเมื่อมองผ่านลูกแก้วมณีนาคราชคริสตัลซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างองค์พญานาคคู่ที่หันเศียรเข้าหากัน จะได้เห็นเมืองศรีราชาในมุมกลับหัว
ปิดท้ายกันด้วย ‘วัดโสธรวรารามวรวิหาร’ ในอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา เชื่อว่าชาวพุทธหลายคนต่างรู้จักกันดี เพราะที่วัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปสำคัญที่สุดองค์หนึ่งของประเทศไทย นั่นคือ ‘หลวงพ่อพุทธโสธร’ ประดิษฐานคู่เมืองแปดริ้ว โดยในแต่ละวันจะมีผู้คนแห่มาสักการะขอพรด้านต่าง ๆ จากหลวงพ่อโสธรไม่ขาดสาย รวมถึงคนที่สมหวังแล้วก็จะกลับมาถวายไข่ต้ม 99 ฟอง และจ้างละครรำถวาย
และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแหล่งท่องเที่ยวสายมู – สายบุญในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคตะวันออกเท่านั้น ฉบับหน้ามาติดตามกันต่อว่าแหล่งท่องเที่ยวแนะนำในภาคใต้และภาคกลางจะมีที่ไหนกันบ้าง รับรองว่าน่าสนใจไม่แพ้กันแน่นอน
ขอบคุณภาพโดย TieuBaoTruong จาก Pixabay , SHUTTER STOCK
You may also like
-
“เที่ยวล้างแค้น” เช็ค 5 ข้อควรรู้ก่อนไปท่องเที่ยวเมืองนอก
-
เล่นเซิร์ฟล้อคลื่น ‘เขาหลัก’
ปักหมุดโรงแรมเก๋-ร้านอาหารใต้สไตล์พังงา -
เที่ยว”แม่ฮ่องสอน”แบบรักษ์โลก : บ้านรักไทย ไร่ชา สวยไม่แพ้กัน
-
‘เที่ยวหรู อยู่แพง!’ ตลาด ‘ลักซ์ชัวรี’ มีดีต้องเจาะ ฝ่าพายุเศรษฐกิจโลกถดถอย!
-
จิตรกรรมฝาผนังรามเกียรติ์”บ้านพิบูลธรรม”งานฝีมือที่หาชมได้ยาก