ยุคนี้ การที่จะสร้างความแตกต่างและสร้างมูลค่าเพิ่มให้การบริการสำหรับโรงแรม เราคงต้องอาศัยอุปกรณ์ไฮเทคเข้าช่วยกันแล้วล่ะ ดังจะเห็นว่า ตั้งแต่มีสมาร์ทโฟนเกิดขึ้นอะไรๆ ก็ดูง่ายไปเสียหมด
เราสามารถจองห้องพักผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือ เช็คอิน หรือแม้แต่เปิดประตูห้องก็สามารถทำได้ด้วยสมาร์ทโฟน นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์ไฮเทคอื่นๆ ที่ช่วยให้การบริการเป็นไปอย่างสะดวกสบายมากขึ้น VR headset ก็เป็นหนึ่งในบรรดาอุปกรณ์สุดสร้างสรรค์ ที่มีผู้ประกอบการโรงแรมค่ายยักษ์ทุ่มเงินลงทุน หวังสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้แขกที่มาพัก ที่สำคัญ อุปกรณ์ไฮเทคเหล่านี้นี่แหละที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการของทางโรงแรมมากขึ้น เนื่องจากทุกวันนี้ลูกค้าคาดหวังระดับการให้บริการที่แตกต่างไปจากเดิม ดูดีมีรสนิยมยิ่งขึ้น และทันสมัยมากขึ้นนั่นเอง
VR Headset คือ อุปกรณ์แสดงภาพเหมือนจริงในรูปแบบของชุดหูฟังสวมหัว โดยจะแสดงภาพออกมาเป็น 3 มิติ ทำให้ผู้ใช้รู้สึกได้เหมือนกับใช้ตาของตัวเองในการมอง เหมือนได้ชมภาพแบบ 360 องศา ถูกนำมาประยุกต์เพื่อใช้บริการลูกค้าในโรงแรม โดยขณะสวมใส่ชุด headset นี้ ผู้ใช้งานจะสามารถมองเห็นภาพสถานที่ของโรงแรม ได้เสมือนว่าตัวเองไปอยู่ในสถานที่นั้นจริงๆ ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ VR Headset ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นอุปกรณ์ในการสร้างความบันเทิงต่างๆ อาทิ ใช้สำหรับเล่นวิดีโอเกม สำหรับดูภาพยนตร์ เป็นต้น
การพาชมสถานที่ของโรงแรมด้วยภาพเสมือนจริงนั้น ช่วยให้แขกที่มาพักได้รับประสบการณ์เหมือนว่าได้เข้ามาพักในสถานที่จริงๆ และได้เห็นสถานที่ต่างๆ ของโรงแรมแม้จะยังอยู่ที่บ้านของตัวเอง เจ้าอุปกรณ์ VR นี้จะทำหน้าที่เป็นไกด์นำเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ภายในเมืองได้ด้วย โดยทางโรงแรมจะต้องวาง VR headsetเ ไว้ที่บริเวณลอบบี้ และต้องใส่ข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวเอาไว้แล้ว
VR เป็นหนึ่งวิธีที่หลายโรงแรมใช้แสดงถึงความเลิศหรูที่เหนือระดับ ที่จริงแล้ว ก็มีโรงแรมอย่างน้อยหนึ่งรายที่ได้นำเทคโนโลยีนี้ไปใช้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หวังที่จะสร้างความแตกต่างและเพื่อให้ตัวเองเป็นแบรนด์ที่มีความคิดล้ำนำสมัยเมื่อปีที่แล้ว มาริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ก็ได้เปิดตัว สถานี VR ที่มีหน้าตาคล้ายบูธ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า ‘Transporter’ โดยเป็นส่วนหนึ่งจากแคมเปญ ‘Travel Brilliantly’ ของทางโรงแรม ซึ่งบูธเหล่านี้จะทำหน้าที่พาผู้ใช้งานที่สวมใส่ชุดหูฟังแบบครอบหัว Oculus Rift VR ท่องเที่ยวไปทั่วลอนดอนและฮาวาย และเมื่อไม่นานมานี้เอง ทางโรงแรมค่ายดังที่ว่านี้ก็ได้เพิ่มประสบการณ์การท่องเที่ยวอีก 3 แห่งลงในชุดหูฟัง VR ของโรงแรมในเครืออีก 2 แห่ง ให้แขกผู้มาพักได้ลองใช้กัน
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงรูปแบบการใช้งาน VR รูปแบบหนึ่งเท่านั้น ซึ่งถ้าจะปรับให้สามารถใช้งานอย่างตรงเป้าหมายให้มากขึ้นนั้น ผู้ประกอบการโรมแรมจะต้องพัฒนาการนำเที่ยว ด้วยภาพเสมือนจริงนี้ไปใช้แสดงสถานที่ต่างๆ ภายในโรงแรมของตนให้ได้
แชงกรีล่า โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท โรงแรมแบรนด์หรูชั้นนำของโลก ทุ่มเงินลงทุนมหาศาลไปกับเทคโนโลยีใหม่ในปีนี้ เพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้าและนักเดินทางจากทั่วโลกให้เดินทางมาเข้าพักและเยี่ยมชมโรงแรมที่มีอยู่มากมายหลายแห่งทั่วโลกก่อนที่จะตัดสินใจแพ็คกระเป๋าเดินทางมายังสถานที่จริง ทางโรงแรมประกาศว่า ได้เริ่มใช้งานชุดหูฟัง Samsung Gear VR ที่ผลิตโดยผู้นำด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยี VR อย่างแบรนด์ Oculus โดยส่งกระจายไปยังทีมงานฝ่ายขายที่มีอยู่ทั่วโลกได้ใช้งานแล้ว แนวคิดก็เพื่อต้องการส่งภาพวิดีโอแบบ 360 องศา ไปให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจและกลุ่มลูกค้าของโรงแรมได้ดู ง่ายๆ เพียงสวมชุดหูฟังแบบครอบหัวนี้เข้าไปเท่านั้นเอง
ทางบริษัทฯ วางแผนกระจายเทคโนโลยีไปใช้งานให้ครอบคลุมโรงแรมในเครือทั้ง 94 แห่งทั่วโลกภายในปีหน้า ซึ่งต้องถือว่าแชงกรีล่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งที่นำเทคโนโลยี VR มาใช้งานสนับสนุนการขายและการตลาดเป็นรายแรกๆ และเพื่อเป็นการสร้าง
ไฮไลต์บางส่วนอยู่ที่การแสดงภาพและเสียงขณะยืนอยู่ที่อยู่ ณ ริมจัตุรัส เจงกิสข่าน กรุงอูลานบาตอร์ ของมองโกเลีย การพาทัวร์เสมือนจริง ณ ห้องพักสวีทสุดหรู ที่แชงกรีล่า โฮเทล ในโตเกียว และที่พลาดไม่ได้ คือ การชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองปักกิ่ง จากห้องพักบนตึกที่สูงที่สุดของจีนซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมแชงกรีล่า
VR ถือเป็นการปฏิวัติเครื่องมือทางการขายรูปแบบใหม่ ซึ่งเทคโนโลยีนี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นแล้ว มีจำหน่ายแล้ว ทั้งยังมีน้ำหนักเบาและพกพาไปไหนมาไหนด้วยได้อีกด้วย