ฤดูหนาวเวียนมาเยือนอีกที มีหรือจะพลาดแอ่วเมืองเหนือเพื่อสัมผัสอากาศเย็นสบาย คลายความเครียดจากสถานการณ์โควิด-19 ชวนหม่นที่ดูแล้วต้องหาวิธีอยู่ร่วมกับโรคระบาดนี้ไปอีกพักใหญ่
แต่เมื่อรัฐผ่อนคลายการเดินทางภายในประเทศ เลือกปักหมุดไปเยือน ‘เชียงใหม่’ อีกครั้ง จังหวัดที่ใครต่อใครสามารถกลับไปบอกรักได้บ่อย ๆ ด้วยความหลากหลายของเมือง ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม วิถีชุมชน วัดวาอาราม และย่านการค้า มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายรอให้เราไปค้นหา รวมถึงย่านท่องเที่ยวที่เราคุ้นเคย กลับไปสัมผัสได้ซ้ำ ๆ ไม่รู้เบื่อ
เริ่มด้วยการเสาะแสวงหาแหล่งท่องเที่ยวสุดอันซีนที่ยังไม่เคยเยือน ‘วัดธาราทิพย์ชัยประดิษฐ์’ คือ คำตอบแรก นั่งรถมุ่งหน้าไปยังจุดหมายซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านห้วยชมพู อำเภอแม่แตง เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 – 18.00 น.
ความโดดเด่นของวัดแห่งนี้ อยู่ตรงที่พระวิหารซึ่งได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ให้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมผสมผสานศิลปกรรมท้องถิ่นล้านนา ภายในวิหารมีภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนัง ฝั่งด้านซ้ายและขวาของพระประธานเป็นภาพจากบทพระราชนิพนธ์เรื่อง ‘พระมหาชนก’ ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร มาเป็นต้นแบบในการออกแบบภาพจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยเนื้อหาสอดคล้องกับหลักพุทธศาสนา โดยเฉพาะการเวียนว่ายตายเกิด รวมถึงแก่นเรื่อง ‘ความเพียรพยายามที่ไม่สิ้นสุด’ หากพยายามอย่างถึงที่สุด ความสำเร็จย่อมรอเราเสมอ นี่คือข้อคิดที่ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย นำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้นอกจากนี้ หากสังเกตภาพเขียนดี ๆ จะมองเห็นลูกเล่นที่ศิลปินสอดแทรกไว้น่าสนใจมากมาย เช่น ภาพตัวละครเอกจากภาพยนตร์ดังเรื่อง ‘อควาแมน เจ้าสมุทร’
ด้านพระประธานแสนงดงามกลางวิหาร ‘พระพุทธปฏิมาสิริภานิรมิต’ เป็นฝีมือการปั้นของศาสตราจารย์เข็มรัตน์ กองสุข ศิลปินแห่งชาติ ปี 2555 สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) ตั้งใจสร้างสรรค์ให้เป็นพุทธศิลป์ประจำรัชกาลที่ 9 หล่อด้วยโลหะบรอนซ์ พุทธลักษณะปางมารวิชัยประทับนั่งขัดสมาธิเพชร (วัชรอาสน์) เกศบัวตูม ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปแบบพระเชียงแสน แบบสิงห์หนึ่ง ซึ่งผสมผสานลักษณะแบบคุปตะของอินเดีย ทวารวดี ศรีวิชัย และศิลปะแบบหริภุญชัย ลำพูน ภายในพระประธานใหญ่บรรจุพระเครื่องขนาดเล็ก 84,000 องค์ สื่อถึงพระไตรปิฎกซึ่งนับได้ 84000 พระธรรมขันธ์นั่นเอง
หลังจากใช้เวลาชื่นชมความงดงามภายในวัดธาราทิพย์ชัยประดิษฐ์สักพักใหญ่ ก็ได้เวลาของมื้อเที่ยง ขับรถลัดเลาะไปตามถนนเส้นเล็ก มุ่งหน้าสู่ร้านอาหารและคาเฟ่นาม ‘Stay Wild & Café’ ตั้งอยู่ที่ตำบลแก่งกื้ด อำเภอแม่แตง เป็นร้านอาหารและที่พักติดริมน้ำ บรรยากาศดี ภายในตกแต่งเรียบง่ายเข้ากับธรรมชาติ ให้ความรู้สึกชิลเมื่อได้ทอดสายตามองสายน้ำไหลผ่าน ที่นั่งภายในร้านมีหลายโซนให้เลือกนั่งต่างบรรยากาศ อาหารรสชาติถูกปาก โดยเฉพาะเนื้อย่างและตำแตงกวารสเข้มข้น นอกจากโซนร้านอาหารและคาเฟ่แล้ว ที่นี่ยังมีบริการที่พัก กิจกรรมผจญภัยให้นักท่องเที่ยวสายลุยได้ลอง เช่น ล่องแก่ง และขับรถ ATV
สำหรับที่พักในอำเภอแม่แตง ‘สิบแสน รีสอร์ท แอนด์ สปา’ รีสอร์ตที่แฝงตัวในแมกไม้เมืองเหนือ เพื่อซึมซับบรรยากาศสดชื่น สูดหายใจได้อย่างเต็มปอด เพลินตากับสีเขียวของป่าเขาร่มรื่น รู้สึกได้ถึงความเงียบสงบ หลบหนีจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ เหมาะสำหรับการมาพักเป็นครอบครัวหรือคู่รัก ที่พักถูกออกแบบเป็นวิลล่า เน้นความเป็นส่วนตัว ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมล้านนาและความร่วมสมัย
นอนพักเติมพลังจนอิ่ม เช้าวันต่อมาไปต่อกันที่ ‘วัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน’ (วัดบ้านเด่น) อำเภอแม่แตง ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าสมัยโบราณซึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองเรียกว่า ‘เมืองแกน’ สร้างด้วยศิลปะล้านนาประยุกต์ พอได้มาเยือนถึงกับยืนอึ้ง จนต้องขอใช้คำว่า ‘อลังการงานสร้าง!’ กล้าพูดว่าเป็นหนึ่งในวัดที่งามล้ำแห่งดินแดนล้านนา ขอยกให้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันซีนที่อยากให้ทุกคนได้มาเยือน
ในอดีตวัดแห่งนี้เป็นเพียงวัดเล็ก ๆ ในหมู่บ้านเท่านั้น แต่ด้วยพลังศรัทธาทำให้วัดนี้โดดเด่นสมชื่อจากพุทธศิลป์อันทรงคุณค่า เมื่อ ‘ครูบาเจ้าเทือง นาถสีโล’ มาจำพรรษา จากที่ไม่เคยมีต้นโพธิ์ ก็เริ่มมีต้นโพธิ์ปรากฏ โดยภาษาถิ่นนั้นเรียกว่า ‘ต้นสะหลี’ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัดนั่นเอง
ด้วยศิษยานุศิษย์ของครูบาเจ้าเทืองที่มีอยู่มากมาย ส่งผลให้ยอดปัจจัยในการร่วมบุญมากขึ้นทบทวี ทางครูบาเจ้าเทืองเองก็มีความตั้งใจที่จะสร้างอนุสรณ์สถานแห่งผลบุญอย่างเป็นรูปธรรม จึงเดินหน้าปรับปรุงก่อสร้างวัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกนใหม่ในปี 2534 บนพื้นที่เนินเขากว่า 80 ไร่ของวัด
พบว่า ยังมีการก่อสร้างอาคารหลังใหม่ ต่อเติมอาณาจักรของวัดเด่นสะหลีฯ อย่างต่อเนื่องจากปัจจุบันที่มีอยู่แล้วหลายอาคาร เช่น ‘วิหารพระเจ้าทันใจ’ อาคารไม้สักหลังใหญ่เด่นสะดุดตาอยู่ตรงหน้า ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายมือสุด ตรงซุ้มบันไดเป็นรูปปั้นพญานาคศรีสุทโธที่โอบรอบวิหาร ด้านในมีพระเจ้าทันใจให้เราได้เข้าไปกราบไหว้ขอพร
ถัดมาเป็น ‘วิหารพระเจ้าปันต๋น’ ในสำเนียงภาษากลาง คือ พระเจ้าพันตน ภายในวิหารหลังเล็กที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงามนั้น มีพระพุทธรูปอยู่เป็นจำนวนมาก โดยมี พระเจ้าเงินทันใจ เป็นพระประธานโดดเด่น และเมื่อเดินถัดมาอีกจุดจะมีรูปหล่อพระครูบาเจ้าเทือง นาถสีโล ผู้สร้างวัดเด่นสะหลีฯ ขณะที่ด้านหลังเป็นที่ประดิษฐานของ‘พระธาตุประจำปีเกิดทั้ง 12 ราศี’ จำลองมาจากพระธาตุประจำปีเกิดทั่วประเทศ
หลังชื่นชมความอลังการของวัดเด่นสะหลีฯ แล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศกลับคืนสู่ความเรียบง่ายด้วยถ้วยกาแฟที่ร้านเล็ก ๆ ชื่อ ‘ครามเฟอีน’ (Kramfeine) ร้านกาแฟติดถนนทางเข้าบ้านกาด หมู่ที่ 4 ตำบลแม่หอพระ อำเภอแม่แตง เพื่อชิมกาแฟรสชาติดีราคาหลักสิบเป็นกันเอง แถมยังได้อิ่มเอมกับทิวทัศน์หน้าร้านราคาหลักล้าน เพราะมีบึงใสเป็นฉากหน้า รับกับฉากหลังภูเขาสีเขียวสด เหมาะกับการมากางเต็นท์จิบกาแฟอุ่น ๆ รับลมหนาวอย่างมาก
เมนูซิกเนเจอร์ของร้านมีทั้ง รีแลกซ์ ไทม์ (เดอร์ตี้ คอฟฟี่), ออเรนจ์ โคลด์บรูว์ และมิดไนต์ คอฟฟี่ (กาแฟผสมบลูเบอร์รีไซรัป) ราคา 65 บาทเท่านั้น อีกความอร่อยที่ไม่อยากให้พลาดกัน คือ เบเกอรีของทางร้าน อาทิเช่น ขนมปังก้อนใหญ่ที่ข้างในมีส่วนผสมของเนื้อส้มและชีสหอมนวล รสชาติละมุนลิ้นมาก นอกจากนี้ยังมีเลมอนเค้ก ชีสเค้ก และครัวซองต์ให้ได้ลิ้มลองกัน
ทั้งหมดนี้ คือ แหล่งท่องเที่ยวสุดอันซีนของอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ที่อยากชวนให้ทุกคนได้มาสัมผัสกันในช่วงไฮซีซั่นนี้ แล้วจะรู้ว่าเชียงใหม่ยังมีของดีอีกมากรอคุณอยู่!
You may also like
-
“เที่ยวล้างแค้น” เช็ค 5 ข้อควรรู้ก่อนไปท่องเที่ยวเมืองนอก
-
เล่นเซิร์ฟล้อคลื่น ‘เขาหลัก’
ปักหมุดโรงแรมเก๋-ร้านอาหารใต้สไตล์พังงา -
เที่ยว”แม่ฮ่องสอน”แบบรักษ์โลก : บ้านรักไทย ไร่ชา สวยไม่แพ้กัน
-
‘เที่ยวหรู อยู่แพง!’ ตลาด ‘ลักซ์ชัวรี’ มีดีต้องเจาะ ฝ่าพายุเศรษฐกิจโลกถดถอย!
-
จิตรกรรมฝาผนังรามเกียรติ์”บ้านพิบูลธรรม”งานฝีมือที่หาชมได้ยาก