โควิดมาทำให้ไปเที่ยวไม่ได้ ตอนนี้จึงต้อง “เที่ยวล้างแค้น” เที่ยวให้สมใจหลังอัดอั้นมานาน ก่อนไปท่องเที่ยวต่างประเทศ จึงควรเช็ค 5 ข้อควรรู้ เพื่อเที่ยวอย่างสบายใจไร้กังวล
หลังปิดประเทศไปไหนไม่ได้ในช่วงโควิดเกือบ 3 ปี ตอนนี้หลายประเทศกลับมาเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง จนทำให้เกิดปรากฏการณ์ Revenge Travel หรือเที่ยวล้างแค้น หลายคนบอกว่าโลกปลดปล่อยความรู้สึกที่อัดอั้น จากการไม่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศมาเกือบ 3 ปี
การท่องเที่ยวเชิง “ล้างแค้น” มาในรูปแบบของการเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคัก จากข้อมูลจากเอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย หนึ่งในพาร์ทเนอร์หลักของแรบบิท แคร์ พบว่า จำนวนวันเดินทางเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวชาวไทยต่อหนึ่งทริปในปีนี้เพิ่มสูงขึ้นกว่า 50% โดยประมาณ เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19
ตอนนี้หลายคนคงกำลังวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศอีกครั้ง แรบบิท แคร์ รวบรวมจุดหมายปลายทางยอดฮิต 5 ลำดับแรกโดยอ้างอิงจากสถิติยอดการซื้อประกันการเดินทางผ่านแรบบิท แคร์ ช่วงเดือนเมษายน-พฤศจิกายน 2022
พบว่า ผู้คนซื้อประกันการเดินทางในกลุ่มประเทศเชงเก้นหรือประเทศในทวีปยุโรป เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี และสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น มากที่สุดเป็นลำดับที่ 1
สำหรับลำดับที่ 2 คือ ประกันการเดินทางในประเทศเกาหลีใต้ ลำดับที่ 3 คือ ประกันการเดินทางในประเทศสิงคโปร์ ลำดับที่ 4 คือ ประกันการเดินทางในประเทศญี่ปุ่น และลำดับที่ 5 คือ ประกันการเดินทางในประเทศอเมริกา
ดังนั้นเพื่อให้การ เที่ยวล้างแค้น สนุกไร้กังวล แรบบิท แคร์ ขอแชร์เช็คลิสต์ 5 ข้อ ที่จะช่วยให้ทุกคนได้เตรียมตัววางแผนท่องเที่ยวอย่างรอบคอบเพื่อความพร้อมก่อนออกเดินทาง ดังนี้
1 . ศึกษาเงื่อนไข ของประเทศที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวและเตรียมเอกสารให้พร้อม บางประเทศยังคงมีเงื่อนไขในการเดินทางเข้าประเทศ นอกเหนือจากอประการเตรียมเอกสารสำคัญสำหรับยืนยันตัวตน เช่น หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต และวีซ่าแล้ว ควรศึกษาข้อมูลของประเทศที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว และจัดเตรียมเอกสารตามเงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศปลายทาง สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสถานทูตหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
2. ตรวจเช็คสภาพอากาศ และจัดเตรียมของใช้ที่จำเป็นก่อนออกเดินทาง สำคัญมาก อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามนั่นคือยารักษาโรค ไม่ว่าจะเป็นยาสามัญทั่วไป ยาประจำตัว หรือแม้แต่ยาที่ช่วยบรรเทาอาการโควิด-19 เบื้องต้น เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ไอ ยาอมแก้เจ็บคอ เนื่องจากการซื้อยาบางประเภทในต่างประเทศอาจทำได้ยากเพราะต้องใช้ใบสั่งยาจากแพทย์
นอกจากนี้ ควรศึกษาบัญชียาต้องห้ามของประเทศที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศนั้น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการนำยาที่ผิดกฎหมายติดตัวไปด้วย และอย่าลืมหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ล้างมือ เมื่อต้องเดินทางในพื้นที่แออัด
3. ดาวน์โหลดแอพพลิเคชันที่จำเป็น สำหรับการท่องเที่ยว และแอพฯ แปลภาษา Google Translate ที่สามารถแปลทั้งเสียงและภาพได้มากกว่า 100 ภาษาทั่วโลก ยังมี Google Maps ที่อำนวยความสะดวกในการใช้แผนที่และวางแผนการเดินทางที่เหมาะสม และสุดท้ายแอพฯ Uber หรือบริการรถแท็กซี่ท้องถิ่น, แอพฯ Trainline ที่ช่วยจัดการตั๋วในการเดินทางด้วยรถไฟในยุโรปง่ายขึ้น
4. เลือกใช้บัตรเครดิตและสิทธิประโยชน์ เพื่อตอบโจทย์ความคุ้มค่าในการเดินทางท่องเที่ยว บัตรเครดิตช่วยให้เราใช้จ่ายได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น บัตรเครดิตยังมีสิทธิพิเศษสำหรับการเดินทางอีกมาก หลายคนอาจไม่ทราบ เราได้รวบรวมสิทธิพิเศษบางส่วนที่ช่วยเสริมประสบการณ์การท่องเที่ยวมาให้ดังนี้
• สิทธิ์รับบริการรถลีมูซีนรับหรือส่งที่สนามบิน เช่น บัตรเครดิต Citi Prestige ที่ให้บริการรถลีมูซีน รับ-ส่ง ณ สนามบินที่ร่วมรายการในเอเชีย แปซิฟิก 2 ครั้ง/ปี
• สิทธิ์รับเครดิตเงินคืนและสะสมแต้มเพิ่มหลายเท่าจากยอดการใช้จ่ายด้วยสกุลเงินต่างประเทศ เช่น บัตรเครดิต The Passion Kasikorn ซึ่งรับคะแนนสามเท่าจากการใช้จ่ายด้วยยอดสกุลเงินต่างประเทศหรือบัตรเครดิต KBank JCB Platinum รับคะแนนสองเท่าเมื่อจ่ายด้วยสกุลเงิน JPY ที่ประเทศญี่ปุ่น
• สิทธิพิเศษที่คุ้มครองด้านการเดินทาง เช่น บัตรเครดิต UOB Premiere ที่มีประกันการเดินทางคุ้มครองสูงสุด 20,000,000 บาท บัตรเครดิต KTC Cashback Platinum Mastercard ที่มีประกันอุบัติเหตุการเดินทางทั้งในและต่างประเทศคุ้มครองสูงสุด 8,000,000 บาท
ยังมีสิทธิ์อัพเกรดตั๋วที่นั่ง สิทธิ์รับอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน สิทธิ์บริการโหลดกระเป๋าเดินทางฟรี สิทธิ์ส่วนลดแพ็กเกจท่องเที่ยว สิทธิ์การสะสมคะแนนจากไมล์ของสายการบิน สิทธิ์เข้ารับบริการห้องรับรองที่สนามบินทั้งในและต่างประเทศ ฯลฯ
5. ซื้อประกันภัยการเดินทางเสริมความอุ่นใจ ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นประกันที่จ่ายเบี้ยต่ำแต่ความคุ้มครองสูง ประกันการเดินทางนั้นไม่ได้คุ้มครองเฉพาะอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วยจากการเดินทางเท่านั้น แต่คุ้มครองครอบคลุมถึงเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง
เช่น ประกันการเดินทางจาก เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย ที่คุ้มครองตามจริงและครอบคลุมตั้งแต่กรณีที่ขอวีซ่าไม่ผ่าน ยินดีคืนค่าเบี้ยประกัน หรือหากไฟลท์ดีเลย์ ประกันคุ้มครองสูงสุดถึง 35,000 บาท
กรณีกระเป๋าเดินทางเสียหายหรือสูญหาย ประกันคุ้มครองสูงสุดถึง 60,000 บาท และกรณีกระเป๋าเดินทางล่าช้า ประกันคุ้มครองสูงสุดถึง 35,000 บาท นอกจากนี้ยังคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งอุบัติเหตุและเจ็บป่วย สูงสุด 5,000,000 บาท พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ประกันการเดินทางจึงถือว่าเป็นหนึ่งในการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะช่วยเสริมความอุ่นใจเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรโมชั่น เมื่อสมัครบัตรเครดิตและประกันการเดินทางท่องเที่ยวที่แรบบิท แคร์ (https://rabbitcare.com)
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/travel/1046706
You may also like
-
เล่นเซิร์ฟล้อคลื่น ‘เขาหลัก’
ปักหมุดโรงแรมเก๋-ร้านอาหารใต้สไตล์พังงา -
เที่ยว”แม่ฮ่องสอน”แบบรักษ์โลก : บ้านรักไทย ไร่ชา สวยไม่แพ้กัน
-
‘เที่ยวหรู อยู่แพง!’ ตลาด ‘ลักซ์ชัวรี’ มีดีต้องเจาะ ฝ่าพายุเศรษฐกิจโลกถดถอย!
-
จิตรกรรมฝาผนังรามเกียรติ์”บ้านพิบูลธรรม”งานฝีมือที่หาชมได้ยาก
-
เปิด 5 จุดเช็คอิน เบตง เมืองสุดชิคใต้สุดแดนสยาม ไม่ไป ไม่ได้แล้ว!