ชมดาวรับลมหนาว @เชียงใหม่

ลมหนาวโชยมาเป็นสาย เหมือนส่งสารท้าทายให้เราเร่งเก็บกระเป๋าออกเดินทาง จุดหมายปลายปีมีชื่อของ ‘เชียงใหม่’ ปักหมุดอยู่ ไม่เกินเลยนัก หากจะบอกว่าหนึ่งในกิจกรรมที่เหมาะกับการรับลมหนาวมากที่สุด คือ ‘การดูดาว’

ยิ่งปี 2563 มีความพิเศษตรงที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NARIT จัดเทศกาล ‘ชมดาว…รับลมหนาว 2563-2564’ ประเดิมด้วยการเปิดเทศกาลที่อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ และที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา และสงขลา เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ตามด้วยไฮไลต์ ‘ฝนดาวตกเจมินิดส์’ เมื่อคืนวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา จัดงานตรงอ่างเก็บน้ำห้วยลาน อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ และที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ ใน 3 จังหวัดข้างต้น

ก่อนจะถึงวันที่ฝนดาวตกเจมินิดส์มาเยือน อุ่นเครื่องด้วยการเดินทางไปอุทยานดาราศาสตร์สิรินธร เพื่อชมท้องฟ้าจำลอง เรียนรู้วิธีการดูดาวกันอีกครั้ง พอออกมาจากตึกทรงโดม พบกับวิวทิวเขาสวยงามยามตะวันลับเหลี่ยมเขาช่วงคล้อยเย็น นักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเห็นเป็นต้องถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจนี้ไว้

จากนั้นไปที่อาคาร ASTRO PARK ตรงไปยังลานดูดาว เพราะที่นั่นทาง NARIT จัดกิจกรรมดูดาวทุกคืนวันเสาร์ เวลา 18.00 – 22.00 น. เข้าร่วมกิจกรรมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยเจ้าหน้าที่ตั้งกล้องส่องดาวประมาณ 5 – 6 ตัว เปิดให้ประชาชนทั่วไปมาดูได้ ดาวที่มองเห็นผ่านกล้องในวันนั้น คือ ดาวพฤหัสที่มีบริวารล้อมรอบอีก 3 ดวง และดาวเสาร์ เห็นเป็นวงแหวนชัดเจน 

ในคืนต่อมา ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ มุ่งหน้ามายังอ่างเก็บน้ำห้วยลานในช่วง 20.00 น. มีผู้คนเดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก ตั้งตารอชมปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ภายในงานมีการจัดกิจกรรมส่องกล้องดูดาวและแนะนำวิธีการดูดาวก่อนชมดาวตกของจริงบนท้องฟ้า

ช่วงเวลาแห่งการรอคอยก็มาถึงในช่วงเวลา 22.00 น.เป็นต้นไป เมื่อดาวตกค่อย ๆ เคลื่อนตัวแทบจะทุกทิศทางของท้องฟ้า ทาง NARIT ระบุว่า อัตราการตกเฉลี่ยสูงสุดเป็นไปตามคาด มากถึงประมาณ 150 ดวงต่อชั่วโมง สามารถสังเกตเห็นดาวตกที่เป็นลูกไฟ (Fireball) และดาวตกชนิดระเบิด (Bolide) เป็นแนวยาวพาดผ่านท้องฟ้า

สำหรับฝนดาวตกเจมินิดส์ เกิดจากการที่โลกโคจรเข้าตัดกับสายธารเศษหินและฝุ่นของดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน (3200 Phaethon) ที่ทิ้งไว้ขณะเคลื่อนผ่านเข้ามาในระบบสุริยะชั้นใน เมื่อโลกโคจรผ่านเส้นทางดังกล่าว แรงดึงดูดของโลกจะดึงฝุ่นและหินเข้ามาเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศโลกเกิดเป็นลำแสงวาบ หรือบางครั้งเกิดเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ (Fireball) มีศูนย์กลางการกระจายบริเวณกลุ่มดาวคนคู่ เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 4 – 17 ธันวาคมของทุกปี และจะมีอัตราการตกสูงสุดในช่วงวันที่ 13 – 14 ธันวาคม เฉลี่ยประมาณ 150 ดวงต่อชั่วโมง

หลังจากได้ชื่นชมความสวยงามของดวงดาวบนท้องฟ้า เจ้าหน้าที่ของทาง NARIT บอกว่า นอกจากกิจกรรมดูดาวทุกคืนวันเสาร์แล้ว ในเดือนมกราคม 2564 จะมีการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ตะลุยโลกดาราศาสตร์ ทั้งที่เชียงใหม่ นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา และสงขลา ให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้เข้าเยี่ยมชมกิจกรรม

นอกจากนี้ ยังเตรียมจัดงาน เปิดบ้านหอดูดาวแห่งชาติ (TNO Open House) ที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 1 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 และครั้งที่ 2 จะจัดขึ้นในวันที่ 6 มีนาคม 2564 ติดตามข่าวสารและกิจกรรมดี ๆ ได้ที่ www.NARIT.or.th หรือ ติดต่อสอบถาม โทร. 053 121 268-9 ต่อ 305

จบจากโปรแกรมชมดาวรับลมหนาว วันต่อมาขอสวมบทเป็นนักท่องเที่ยวกระแสหลัก มุ่งหน้าไปยัง เทศบาลเหมืองแก้ว เพราะที่นี่เต็มไปด้วยสวนดอกไม้ที่เกษตรกรเจ้าของสวนเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายภาพ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ต่างสวมชุดเดรสสีขาวเบาพลิ้วพร้อมสะบัดตามลม ขนพร็อพมาพร้อมทั้งหมวกปีกบานและแว่นกันแดดมาเรียกยอดไลก์กันแบบเต็ม ๆ ใครเห็นเป็นต้องกดถูกใจสิ่งนี้

สวนดอกไม้ที่มาเช็กอิน ชื่อ ‘สวนดอกไม้ป้านกเอี้ยง’ ที่นี่เก็บค่าบริการเข้าชมสวนที่ 50 บาทต่อคน เด็กอายุต่ำกว่า 7 ปี เข้าชมฟรี แน่นอนว่าไฮไลต์อยู่ที่ทุ่งดอกมากาเร็ตสีม่วง ดอกคัตเตอร์สีขาว ดอกซัลเวียสีแดง รวมถึงทุ่งดอกคอสมอส แถมยังจัดวงดนตรีเล็ก ๆ มาเล่นดนตรีร้องเพลงสากลสไตล์คันทรี่เข้ากับบรรยากาศมาก ๆ

นอกจากสวนป้านกเอี้ยงแล้ว ยังมีอีกหลายสวนรายล้อมในเทศบาลเหมืองแก้ว เช่น สวน I Love Flower Farm ซึ่งเป็นสวนดอกไม้ที่จุดกระแสการถ่ายรูป, สวน We Flower Village, สวนลุงลพ, สวนลุงรน, สวนลุงจั๋น และอื่น ๆ เรียกได้ว่าขึ้นแท่นเป็นฮีโร่โปรดักต์ตัวใหม่ในการดึงดูดผู้คนมาเที่ยวเชียงใหม่เลยก็ได้

ทริปเชียงใหม่ครั้งนี้ เข้าพักที่โรงแรมแคนทารี่ ฮิลล์ เชียงใหม่ ถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย 12 ขนาดห้องพักกว้างขวาง มีพื้นที่ใช้สอยอย่างเต็มที่ ทั้งในส่วนเตียง โซฟานั่งเล่น เหมาะกับการสั่งอาหารมาทานในห้องพักได้ ทั้งยังอยู่ใกล้ย่านถนนนิมมานฯ เดินชอปปิงเลือกดูเสื้อผ้าแนว ๆ ร้านอาหารและคาเฟ่ก็มีให้เลือกมากมาย

ล่าสุด มีโอกาสอุดหนุนร้าน Memorize Brownie ตั้งอยู่ปากซอยเดียวกับซอยที่ตั้งโรงแรมแคนทารีฯ รสชาติบราวนีร้านนี้เหนียวหนึบอร่อยดี มีหลายเมนูให้ได้เพลิดเพลิน และยังมีพวกช็อกโกแลตทั้งแบบรสชาติเข้มข้นและรสชาตินุ่มนวลให้ได้สั่งมาชิมกัน รวมถึงเครื่องดื่มที่ไม่ได้มีดีแค่เมนู Fresh Chocolate Milk ยังมีเมนูชาเขียวและกาแฟอื่น ๆ ด้วย นับเป็นคาเฟ่ที่ช่วยปิดทริปเยือนเชียงใหม่หน้าหนาวของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ขอบคุณรูปภาพจาก Facebook : NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ – www.facebook.com/NARITpage/photos/pcb.3757733194290267/3757732127623707

kanokkan

See author's posts