ขับรถเที่ยว ‘อยุธยา – นครปฐม’ ช้อป – ชิม – ชิล เลี้ยวเลาะใกล้เมืองกรุง

แม้ช่วงนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 3 ซึ่งปะทุตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมายังน่ากังวล แต่การกระจายวัคซีนยังคงเป็นคำตอบสำคัญของภาคท่องเที่ยวทั้งตลาดในและต่างประเทศกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง

สิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ พอจะทำได้กัน คือ การวางแผนเที่ยวรอ… รอวันที่วิกฤตคลี่คลาย สามารถออกไปใช้ชีวิต ออกไปเดินทางท่องเที่ยวกันให้หนำใจอีกครั้ง สมกับที่อัดอั้นรอคอยกันมานาน

แผนการขับรถเที่ยวใกล้เมืองกรุงจึงเกิดขึ้น วางเส้นทางไว้ว่าจะไปเที่ยว ‘อยุธยา’ เมืองเก่าของเราแต่ก่อน กับ ‘นครปฐม’ เมืองเล็กน่ารัก แต่อัดแน่นด้วยแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต ชวนให้ไปเยือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่มีเบื่อ

เราเริ่มต้นทริปวันแรก ด้วยการออกเดินทางในช่วงเช้า มุ่งหน้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปักหมุดแวะเที่ยวชม ‘พระราชวังบางปะอิน’ อำเภอบางปะอิน พระราชวังโบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งได้รับการบูรณะในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ใช้เพื่อเป็นพระราชวังที่ประทับเมื่อเสด็จฯ แปรพระราชฐานในช่วงฤดูร้อน เปิดให้เข้าเยี่ยมชมทุกวัน เวลา 8.00 – 16.00 น.

ต่อด้วย ‘วัดนิเวศน์ธรรมประวัติราชวรวิหาร’ ตั้งอยู่บนเกาะลอยกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน เนื่องจากที่ตั้งของวัดนี้อยู่บนเกาะกลางน้ำ ต้องเดินทางด้วยเรือหรือนั่งกระเช้าไฟฟ้าลอยน้ำเข้าไปเท่านั้น โดยกระเช้าจะออกทุก ๆ 5 – 10 นาที นั่งได้ประมาณ 4 – 5 คน ถือเป็นหนึ่งในกิมมิคที่น่าสนใจ

ไฮไลต์ของวัดนิเวศน์ธรรมประวัติราชวรวิหารอยู่ที่สถาปัตยกรรมของโบสถ์แบบโกธิก เหมือนโบสถ์คริสต์ นับเป็นการออกแบบที่ศิลปะไทยและตะวันตกมาบรรจบพบกันอย่างงดงามและโดดเด่น จนกลายเป็นวัดไทยสไตล์โกธิกหนึ่งเดียวในไทยเลยก็ว่าได้ โดยในหลวงรัชกาลที่ 5 โปรดฯ ให้สร้างวัดนี้ขึ้นเพื่อทรงใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศล เมื่อครั้งเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับที่พระราชวังบางปะอิน ทั้งนี้ทางวัดเปิดให้เข้าเยี่ยมชมทุกวัน เวลา 9.00 – 17.00 น.

เสร็จจากการชื่นชมความงดงามของวัดวาอารามในช่วงครึ่งแรกของวัน หากคุณเป็นสายปิ้งย่าง ขอแนะนำเติมพลังด้วยมื้อกลางวันที่ร้าน ‘X BEEF’ ร้านปิ้งย่างสไตล์โมเดิร์นที่มีเนื้อสุดพรีเมียม หมู ซีฟู้ด และไส้กรอก พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ดที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ เปิดบริการทุกวันเวลา 11.00 – 22.00 น.

อิ่มอร่อยกันอย่างเต็มที่แล้ว ลุยเที่ยวอยุธยากันต่อในช่วงบ่าย มุ่งหน้าสู่ ‘วัดใหญ่ชัยมงคล’ ตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา เพื่อไหว้พระขอพร ความโดดเด่นของวัดใหญ่ชัยมงคลอยู่ที่เป็นวัดเก่าแก่และสำคัญอีกแห่งหนึ่งในสมัยอยุธยาตอนต้น รัชสมัยของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง ผู้สถาปนากรุงศรีอยุธยา ได้รับการขนานนามว่าวัดใหญ่ชัยมงคลในรัชสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งมีการสันนิษฐานว่าได้สร้างพระเจดีย์ชัยมงคลขึ้นในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งมีชัยในสงครามยุทธหัตถีเหนือพระมหาอุปราชาแห่งพม่า และพระราชทานนามว่า ‘เจดีย์ชัยมงคล’ เมื่อปี พ.ศ. 2135 แต่ประชาชนส่วนใหญ่เรียก   ‘พระเจดีย์ใหญ่’ จึงเชื่อว่าเป็นที่มาของชื่อวัดใหญ่ชัยมงคล โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปชมความงามของเจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยาได้ เปิดให้เยี่ยมชมทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น.

จากนั้นเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวสุดคลาสสิกอย่าง ‘วิหารพระมงคลบพิตร’ ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา เพื่อไหว้พระใหญ่ที่วิหารพระมงคลบพิตร ซึ่งเป็นที่ฐานเก่าแก่ในเขตกำแพงเมืองที่ได้รับการบูรณะอย่างดี หลังถูกข้าศึกเผาทำลายจนเสียหายในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2

อย่าลืมแวะถ่ายรูปเที่ยวชมความงามของ ‘วัดพระศรีสรรเพชญ์’ ซึ่งอยู่ด้านข้างกัน เป็นอดีตวัดหลวงประจำพระราชวังโบราณ อยุธยา จุดเด่น คือ เจดีย์ทรงลังกาจำนวน 3 องค์ ที่วางตัวเรียวยาวตลอดทิศตะวันออกและทิศตะวันตก เปิดให้เยี่ยมชมทุกวัน เวลา 08.30 – 16.30 น. นอกจากนี้ยังมีตลาดจำหน่ายสินค้าที่ระลึกและอาหารนานาชนิดอยู่ไม่ไกลจากวิหารให้ได้เดินทอดน่องเลือกชมและซื้อสินค้าด้วย

สำหรับที่พักของทริปนี้ เลือกโรงแรมแคนทารี อยุธยา ตั้งอยู่บนถนนโรจนะ ซึ่งเป็นถนนหลักเข้าสู่จังหวัดพระนครศรีฯ ระยะทางเพียง 500 เมตร จากถนนเอเชียสาย 32 ทำเลดี ตั้งอยู่ใกล้คอมมูนิตี้มอลล์และแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานสำคัญ นอกจากห้องนอนที่ออกแบบอย่างเป็นสัดส่วน ตามสไตล์ของเครือแคนทารีที่แยกมุมเตียงนอน โซนนั่งเล่น ห้องน้ำ และมุมทำอาหารชัดเจน เรียกได้ว่ามอบความสะดวกสบายอย่างครบครัน นอกจากนี้ที่โรงแรมยังมี คาเฟ่ แคนทารี ให้ได้ชิลกับบรรยากาศตกแต่งแสนน่ารักของร้าน สัมผัสกับของหวานรสชาติดีในราคาคุ้มค่า

พักผ่อนอย่างเต็มอิ่มแล้ว พร้อมลุยทริปขับรถเที่ยวต่อในเช้าวันต่อมาภายในอยุธยา ออกเดินทางไปยัง ‘พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์’ ตำบลท่าวาสุกรี เป็นที่สะสมและรวบรวมของเล่นระดับโลกไว้มากมายทั้งของเล่นในอดีตไปจนถึงของเล่นในยุคปัจจุบัน เพลิดเพลินกับการเดินชมและถ่ายรูปของเล่นนานาชนิดที่ทำให้เรารู้สึกย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ที่นี่เปิดบริการตั้งแต่เวลา 9.00 – 16.00 น. ปิดทุกวันจันทร์

จากนั้นใส่เกียร์เดินหน้าสู่แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดนครปฐม มุ่งตรงสู่ ‘วัดพระปฐมเจดีย์’ ตั้งอยู่ที่ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม เพื่อไหว้พระขอพร โดยชื่อเดิมของวัดพระปฐมเจดีย์ คือ ‘พระธมเจดีย์’ เป็นพระสถูปเจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีฐานะเป็นมหาธาตุหลวงของแผ่นดินสุวรรณภูมิ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 7.00 – 18.00 น.

โดยความโดดเด่นขององค์พระปฐมเจดีย์อยู่ตรงที่มีความสวยงามทั้งในยามกลางวันและกลางคืน และจะสัมผัสได้ถึงความมลังเมลืองเป็นพิเศษในช่วงงานองค์พระปฐมเจดีย์ที่มีการประดับไฟอย่างสว่างไสว และมีมหรสพให้ชมกันอย่างคึกคัก

จากนั้นแวะไปที่ ‘ตลาดน้ำดอนหวาย’ ตลาดเก่าริมแม่น้ำท่าจีนที่ให้อารมณ์ย้อนยุคเหมือนหลุดไปอยู่ในสมัยรัชกาลที่ 6 ที่ตลาดแห่งนี้มีของอร่อยให้ลิ้มลองทั้งคาวหวาน แนะนำให้ลองซื้อลองชิมขนมสาลี่ทิพย์ ขนมปุยฝ้าย ขนมตาลป้าไข่ ขนมเปี๊ยะเฮงกี่ และบ๊ะจ่าง อีกโปรแกรมห้ามพลาดคือนั่งเรือชมวิว ‘แม่น้ำท่าจีน’  หรือแวะล่องเรือที่ ‘คลองมหาสวัสดิ์’ แถวศาลายา ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ

ทั้งหมดนี้ คือ แผนขับรถเที่ยวใกล้เมืองกรุงที่อยากจะแนะนำให้บรรจุอยู่ใน Bucket List เที่ยวเมืองไทย ทันทีที่สถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศคลี่คลาย เชื่อว่าจะช่วยผ่อนคลายคุณจากความเครียดที่เผชิญมากว่า 1 ปีครึ่งนี้ได้เป็นอย่างดี!

ขอบคุณภาพโดย :

– Niels Steeman จาก Pixabay

– <a href=”https://www.freepik.com/photos/road”>Road photo created by tawatchai07 – www.freepik.com</a>

– <a href=’https://www.freepik.com/photos/city’>City photo created by tawatchai07 – www.freepik.com</a>

kanokkan

See author's posts