ส่องที่พักสุดฮิป ‘เชียงใหม่’ น่าเช็กอินรับไฮซีซั่น!

ไฮซีซั่นนี้เรายังคงติดพันกับ ‘เชียงใหม่’ เมืองท่องเที่ยวที่อัดแน่นด้วยความหลากหลาย อากาศเย็นสบายชวนแบกเป้ขึ้นดอย

ปัจจุบันมีรีสอร์ตยอดฮิตติดลมบนมากมายภายใต้ธีมและคอนเซ็ปต์น่าพักให้ได้เลือกสรร โดยเฉพาะแนว ‘แคมป์ปิ้ง’ ที่กำลังมาแรงแซงทุกโค้ง แฝงกิมมิคด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ของมันต้องมี… คือ อ่างจากุชชี่สำหรับแช่น้ำชมวิวขุนเขา สัมผัสกับไอหมอกหยอกเย้ายามเช้า ให้ธรรมชาติโอบกอดเรา พร้อมเช็กอินถ่ายรูปลงโซเชียลมีเดียกันอย่างจุใจ

แห่งแรกที่อยากแนะนำให้ไปกัน คือ ‘หุบเขาดาวเหนือ’ (North Star Valley) ตั้งอยู่ที่ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม เป็นที่พักสไตล์ แกลมปิ้งบับเบิล (Glamping Bubble) ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ด้วยไอเดียสุดชิคเป็นบับเบิลโปร่งใส มอบประสบการณ์เข้าพักแบบใหม่ให้เราได้ดื่มด่ำกับวิวธรรมชาติแบบ 360 องศา จะทอดสายตามองภูเขาในช่วงกลางวันหรือนอนชมดาวใต้แสงจันทร์ยามค่ำคืนก็โรแมนติกขั้นสุด โดยห้องพักที่นี่มีทั้งหมด 9 วิลล่า มาพร้อมห้องน้ำส่วนตัวทุกหลัง แต่จะมีเพียงแค่ 1 หลังที่มีอ่างอาบน้ำกลางแจ้ง ซึ่งเป็นมุมถ่ายรูปที่กำลังได้รับความนิยมจากสาว ๆ ในช่วงนี้

อีกแห่งที่ไม่ควรพลาด คือ รีสอร์ต ‘พราวภูฟ้า’ โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์สุดชิค ‘ฮิป แอนด์ กรีน รีสอร์ต’ ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาและธารน้ำใสในตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม เช่นกัน ที่พักของพราวภูฟ้าจะแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ Villas Zone ให้บริการวิลล่าส่วนตัวตั้งอยู่ริมธาร, Phu Zone ห้องพักวิวภูเขา มีอ่างจากุชชี่แบบ Outdoor และมีบ้านพักที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว โซนสุดท้าย Fern Hill Zone บรรยากาศทุกโซนล้วนเงียบสงบ ปล่อยให้เราได้ทอดกายใจพักผ่อนกลางป่าอย่างเต็มที่ จนไม่อยากให้ถึงวันเช็กเอาต์เลย

ที่พักน่าสนใจอีกแห่ง คือ ‘ภูดอย โฮมสเตย์’ ที่พักแคมป์ปิ้งบนม่อนแจ่ม เจ้าของจุดขายวิวหมอกสวยแบบพาโนรามา สัมผัสอากาศสดชื่นในยามเช้า พอตกดึกก็นอนดูดาว ห้องพักของภูดอย โฮมสเตย์ มีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน คือ บ้านกล่องและเต็นท์กระโจม ส่วนเรื่องอาหารการกินไม่ต้องเป็นห่วง เพราะที่นี่มีบริการหมูกระทะร้อน ๆ ไว้ให้ได้ทานอุ่นท้องกันในช่วงเย็นย่ำตะวันตกดิน

หรือใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศมาชมวิวธรรมชาติอันแสนเงียบสงบ ฟินไปกับการ‘แช่ออนเซ็นกลางแจ้ง’ โอบล้อมไปด้วยหุบเขาและแมกไม้เขียวขจี ปล่อยกายใจให้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ที่ ‘Lanna Wild’ ที่พักระดับลักชัวรีบนดอยแม่กำปอง มีให้เลือกทั้งหมด 8 วิลล่าหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น Secret Onsen Villa, Onsen Tree Tent, Deluxe Gang Tent และ Wild Camping Tent ชอบสไตล์ไหนก็จัดไปได้เลย

ส่วนใครมาเที่ยวแถบอำเภอแม่แตง แนะนำเช็กอินที่ ‘บ้านว้าวด้า’ (Wowda Homstay) โฮมสเตย์เล็ก ๆ สไตล์แคมป์ปิ้ง ห้องพักมีให้เลือกทั้งแบบกระโจม แบบวิลล่า และแบบกระโจมวิลล่าที่มาพร้อมอ่างอาบน้ำริมระเบียง เหมาะกับมานอนชิลชมดาวเป็นที่สุด

ตระเวนสัมผัสประสบการณ์ที่พักสไตล์แคมป์ปิ้งกันตามยอดดอยแล้ว หากแวะกลับมาเที่ยวในตัวอำเภอเมืองเชียงใหม่ เราอยากให้คุณลองเช็กอินที่ ‘รายา เฮอริเทจ’ (Raya Heritage) รีสอร์ตแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิงในเขตตำบลดอนแก้ว ต้องขับรถออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 15 นาที จุดเด่นของที่นี่อยู่ตรงที่การออกแบบสไตล์ล้านนาประยุกต์ เมื่อย่างเท้าเข้ามาในโซนล็อบบี้ สิ่งแรกที่สะดุดตา คือ ต้นสะเดาและต้นเหียงต้นใหญ่ มองเห็นวิวของแม่น้ำปิงเป็นฉากหลัง ร่มรื่นไปทุกส่วนชวนให้จิตใจสงบและผ่อนคลาย

สำหรับห้องพักของรายา เฮอริเทจ มีทั้งหมด 38 ห้องพัก แบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ Huen Bon Suites มีขนาดห้องพัก 75 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนชั้น 3 ด้วยความสูงของห้องทำให้เห็นวิวแม่น้ำปิงได้ชัดเจนที่สุด ให้ความเป็นส่วนตัวมาก ๆ ใช้โทนสีขาวและครีมเป็นสีหลักในการตกแต่งห้อง มีเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งเป็นงานสาน ผ้าทอมือ และข้าวของเครื่องใช้ของคนล้านนาในสมัยก่อน ตรงระเบียงมีเดย์เบดและหมอนนุ่มหลายใบอัดแน่นชวนให้ทิ้งตัวลงนอน หยิบหนังสือมาอ่านชิล ๆ หรือจะชงชาอุ่น ๆ ซึ่งมีใบชาสมุนไพรหลากหลายชนิดให้เลือกชงตามใจชอบ และยังมีที่ดริปกาแฟให้อีกด้วย นั่งจิบชมวิวแมกไม้ริมน้ำปิง ให้ลมพัดใบหน้าเย็นสบาย เรียกได้ว่าสามารถนั่งอยู่ตรงมุมนี้ได้ทั้งวัน ไม่มีเบื่อเลยล่ะ

ส่วน Rin Terrace Suites มีขนาด 75 ตารางเมตรเช่นเดียวกับ Huen Bon Suites แต่ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของรีสอร์ต ใช้โทนสีดำในการตกแต่งห้อง ผสมผสานกับสีขาวและครีม มีเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งเป็นงานหัตถกรรม มีเดย์เบดประจำสถานีตรงระเบียงเช่นกัน

ขณะที่ห้องแบบ Kraam Pool Suites เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 100 ตารางเมตร มีทั้งหมด 11 ห้อง ตั้งอยู่บนชั้น 1 ทั้งหมด ใช้สีครามเป็นสีหลักในการตกแต่งห้องตามชื่อ มีความพิเศษเฉพาะตัวตรงที่มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 7×3 เมตรอยู่หน้าห้อง ล้อมรอบด้วยไม้ไผ่เพื่อมอบความเป็นส่วนตัวแก่ผู้เข้าพัก และสามารถเดินออกมาชมแม่น้ำปิงได้เลย ทั้งนี้ห้องทุกแบบจะมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ให้ได้แช่น้ำอุ่นกันแบบฟิน ๆ

อีกหนึ่งไฮไลต์ของรายา เฮอริเทจ คือ ห้องอาหารแบบ All Day Dining ชื่อ ‘คุข้าว’ ให้บริการตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึง 4 ทุ่ม โดยอาหารเช้ามีให้เลือกหลากหลายทั้งแบบไทยและนานาชาติ เช่น ข้าวมันไก่ ข้าวต้มกุ๊ย บะหมี่เป็ดตุ๋น พวกเมนูไข่ เช่น Poached Eggs, Omelette และ Scrambled ก็มีให้เลือกเช่นกัน เสริมด้วยไส้กรอก เบคอน มันฝรั่ง และสลัด ส่วนสาย Healthy ถูกใจห้องอาหารนี้แน่นอน เพราะมีไลน์อาหารเพื่อสุขภาพให้เลือกทั้งสลัดผักพื้นถิ่น พวกโยเกิร์ต Acai Bowl นมข้าว และน้ำผลไม้คั้นสด ขนาดของจานที่เสิร์ฟไม่ใหญ่มาก ทำให้เราได้ลองชิมอาหารหลาย ๆ เมนู ส่วนมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ที่ห้องอาหารแห่งนี้ก็มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ทั้งอาหารไทย พื้นเมือง และนานาชาติ รวมถึงของหวาน เมนูน่าลอง อย่างเช่น แกงเผ็ดเป็ดย่างลิ้นจี่ หมูกรอบซอสพริกมะขาม

ทั้งหมดนี้ คือ เสน่ห์ของโรงแรมที่พักบรรยากาศแปลกใหม่ในโลเคชั่นต่าง ๆ ของเชียงใหม่ รอให้คุณมาสัมผัสประสบการณ์ บอกได้คำเดียวว่าถ้าเข้าวงการรีสอร์ตสุดชิคเหล่านี้ในเชียงใหม่แล้ว รับรองว่าออกยาก เพราะคุณจะตกหลุมรักเมืองน่ารักแห่งนี้ จนอยากมาเที่ยวซ้ำแล้วซ้ำอีก ยากเกินจะถอนตัว!

ขอบคุณภาพโดย SHUTTER STOCK

kanokkan

See author's posts