การประชุมสมาชิกร่วมระหว่าง ATTA และ THA ครั้งที่ 19 
THA ร่วมประชุมแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 
สมาคมโรงแรมไทย ร่วมลงนาม MOU เพิ่มศักยภาพแรงงานไทย 
รัฐยกเครื่องระบบการออกวีซ่าและการตรวจลงตราของไทย ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศ เปิดตัว “ไทย อี-วีซ่า” โครงการระบบตรวจลงตราอิเล็กทรอนิกส์ครั้งแรกของไทย ให้สิทธิแบงก์กสิกรไทยเป็นหน่วยบริหารการให้บริการ E-VISA ให้ชาวต่างชาติ
ประเดิมไตรมาสแรกสำหรับการทำวีซ่าอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดจีน อังกฤษ ฝรั่งเศส พร้อมตั้งเป้าหมายขยายสู่ทุกประเทศที่มีสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยในต่างประเทศทั่วโลก ภายใน 3 ปี
จากการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ทำให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในกระบวนการออกวีซ่า อยู่ระหว่างยกเครื่องระบบการออกวีซ่าและการตรวจลงตราของไทย ที่จะมุ่งไปสู่ระบบตรวจลงตราอิเล็กทรอนิกส์ (e-Visa) โดยล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) กำลังจัดทำโครงการ “ไทย อี-วีซ่า” หรือ ระบบตรวจลงตราอิเล็กทรอนิกส์เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สิทธิกับธนาคารกสิกรไทยในการเป็นหน่วยบริหารการให้บริการ E-Visa ให้ชาวต่างประเทศ ที่จะทยอยเริ่มไล่ดำเนินการเป็นรายประเทศตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป
หลังจากก่อนหน้านี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ได้นำร่องไปส่วนหนึ่ง เฉพาะในส่วนของ Visa On Arrival ด้วยการเปิดตัวโครงการคัดกรองและตรวจสอบเอกสารล่วงหน้าทางอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับผู้ยื่นขอรับการตรวจลงตรา Visa On Arrival (E-VOA) ที่สนามบินไปแล้วเมื่อเดือน พ.ย. ปีก่อน โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถยื่นขอวีซ่าได้ล่วงหน้าก่อนบินมาไทย ผ่านทางออนไลน์ได้ที่ www.evisathailand.com เพื่อแก้ปัญหานักท่องเที่ยวรอคิวยาว ในการตรวจลงตราวีซ่าที่สนามบิน และรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายที่รัฐบาลยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า VOA หัวละ 2 พันบาท ให้แก่นักท่องเที่ยว 20 ชาติ รวม 1 เขตเศรษฐกิจไต้หวัน ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 2561 – 30 เม.ย. 2562 เพื่อเป็นการกระตุ้นนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาเที่ยวช่วงเทศกาลตรุษจีนและสงกรานต์นี้
ทั้งนี้ ระบบ e-Visa จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการคัดกรองให้มากขึ้น โดยการยื่นวีซ่าผ่านระบบออนไลน์ ตั้งแต่การกรอกแบบฟอร์ม ยื่นเอกสาร พร้อมรับชำระค่าธรรมเนียมแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบของธนาคารกสิกรไทย บนระบบที่มีความปลอดภัยมาตรฐานโลก โดยจะเริ่มให้บริการที่แรกในจีน กรุงปักกิ่ง วันที่ 15 ก.พ. 2562 ก่อนขยายไปเมืองอื่น ๆ ในจีน ในวันที่ 1 มี.ค. 2562 ตามด้วยอังกฤษ และฝรั่งเศส ในวันที่ 1 เม.ย. นี้
พร้อมตั้งเป้าหมายขยายสู่ทุกประเทศที่มีสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยในต่างประเทศทั่วโลก ภายใน 3 ปี โดยชาวต่างชาติสามารถยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศไทยทุกประเภท ผ่านทางออนไลน์บนเว็บไซต์ www.thaievisa.go.th บริการ Thai e-Visa นับเป็นมิติใหม่ของการยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศไทย ซึ่งมีจุดเด่นสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่
1. ความสะดวกรวดเร็ว นักท่องเที่ยวสามารถเริ่มต้นกระบวนการขอวีซ่าบนออนไลน์ด้วยตนเอง ตั้งแต่การกรอกแบบฟอร์ม ยื่นเอกสาร การชำระค่าธรรมเนียมแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบของธนาคารกสิกรไทย (E-Payment) และทำการนัดหมายวัน-เวลาที่สะดวกผ่านระบบ เพื่อเดินทางไปยื่นหนังสือเดินทางที่สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่
2. สามารถใช้บริการได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยระบบออนไลน์ผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ และ
3. ปลอดภัยสูงสุด ด้วยระบบการชำระเงินที่มีเทคโนโลยีความปลอดภัยมาตรฐานโลก
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยว่า ททท. ได้เริ่มนำเสนอแผนในการผลักดันเรื่องอี-วีซ่าของกระทรวงต่างประเทศ ผ่านสื่อมวลชนต่างชาติ เพื่อโปรโมทให้นักท่องเที่ยวรับทราบ ซึ่งได้รับความสนใจจากซื้อต่างชาติมาก เพราะแอพพลิเคชัน “อี-วีซ่า” ที่จะเกิดขึ้น จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศจะเริ่มจากปักกิ่ง ประเทศจีน เป็นชาติแรก ตามมาด้วยสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และจะทยอยดำเนินการให้ครบทุกประเทศภายใน 3 ปีนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.thansettakij.com วันที่ 22 ม.ค. 62
www.thansettakij.com/content/378125
