“อีลิท การ์ด” เปิดตัวโครงการ “Welcome Back to Amazing Paradise” กระตุ้นการเดินทางของสมาชิกบัตรฯ หนุนภารกิจการเปิดประเทศของรัฐบาล ฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยว
วันที่ 25 สิงหาคม 2564 นางสาวรัชดาวรรณ เลิศศิลาทอง รองผู้จัดการใหญ่สายงานบริหารและกิจการองค์กร และรักษาการแทนผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด หรือ อีลิทการ์ด กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 อีกครั้ง และได้เห็นความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ ในการช่วยเหลือและบริหารจัดการ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้
รวมทั้งเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับแผนการเปิดประเทศของรัฐบาลที่ได้มีการจัดตั้งโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์ ซึ่งเป็นโครงการนำร่อง เนื่องจากภูเก็ตถือเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักที่เป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ สามารถสร้างเม็ดเงินให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น
โดยได้เริ่มเปิดโครงการเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบตามชนิดของวัคซีนแล้ว และเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติครบภายใต้เงื่อนไขที่รัฐกำหนด โดยสามารถเดินทางเข้ามาพำนักและท่องเที่ยวภายในภูเก็ตและพื้นที่ใกล้เคียง (Sealed Route) ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า และเกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ ตามโครงการ Samui Plus และ Krabi Even More Amazing ด้วยโมเดล 7+7 ก่อนเดินทางต่อไปยังพื้นที่ในประเทศไทย
นางสาวรัชดาวรรณกล่าวว่า บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นหนึ่งในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนภารกิจการเปิดประเทศ ด้วยการเปิดตัวโครงการ “Welcome Back to Amazing Paradise” โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้สมาชิกผู้ถือบัตรฯ ที่อยู่ต่างประเทศเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต
ซี่งโครงการดังกล่าวบริษัทมีการสนับสนุนค่าบริการตรวจ RT-PCR Test ให้กับสมาชิกผู้ถือบัตรทุกประเภท ที่เดินทางจากต่างประเทศเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตผ่านโครงการภูเก็ตแซนด์บอกซ์ภายใน 30 กันยายน 2564
รวมทั้งนำเสนอแพ็กเกจทัวร์และห้องพักราคาพิเศษ จากผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน SHA Plus+ ที่อยู่ในกลุ่มพันธมิตรคู่ค้าของบริษัทเพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิก นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนกิจกรรมอื่น ๆ ในจังหวัดภูเก็ต เช่น เล่นกอล์ฟ และสปา ประกอบด้วย นวดไทย นวดเท้า นวดน้ำมัน (เฉพาะสาขาที่ร่วมโครงการ)
“พันธกิจของบริษัท คือการสนับสนุนภารกิจของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจของประเทศให้กลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง เรายังคงมีความเชื่อมั่นว่าการร่วมแรงร่วมใจกันของทุกภาคส่วนจะช่วยให้สามารถนำพาประเทศผ่านพ้นวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปได้โดย โครงการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นภูเก็ตแซนด์บอกซ์ หรือสมุยพลัส ต่างเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความร่วมมือของทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมไปถึงประชาชนในท้องถิ่นที่มีเป้าหมายร่วมกันในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ และทำให้ประเทศไทยกลับมาเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง” นางสาวรัชดาวรรณกล่าว
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/tourism/news-746816