Sun. Apr 28th, 2024
น้ำพุร้อน

การท่องเที่ยวไต้หวัน เปิด 3 แหล่งแช่ “ออนเซ็น” น้ำพุร้อน รับหิมะหนาวนี้

การท่องเที่ยวไต้หวัน เปิด 3 แหล่งแช่ “ออนเซ็น” น้ำพุร้อนจากธรรมชาติ ชิมอาหารเลิศรส สถานที่ท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์คนทุกกลุ่ม พร้อมสัมผัสลมหนาวแบบฟิน ๆ รับหิมะแรกที่ไต้หวัน

รายงานข่าวจากสำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน เปิดเผยว่า ในทุก ๆ ปีไต้หวันจะมีปฏิทินการท่องเที่ยวประจำเดือน เพื่อนักท่องเที่ยวสามารถเลือกเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดูกาล หนึ่งในเทศกาลท่องเที่ยวประจำปี ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยว คือ เทศกาลแช่บ่อน้ำพุร้อนและอาหารเลิศรส (Hot Spring & Fine-Cuisine Carnival) ที่เป็นการผสมผสานระหว่างการดูแลรักษาสุขภาพด้วยน้ำพุร้อน และการทานอาหารที่ดีเข้าด้วยกัน โดยจะจัดในช่วงเดือนกันยายน-มิถุนายนของทุกปี

ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ที่อากาศค่อย ๆ เย็นลง จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การแช่บ่อน้ำพุมากที่สุด สำหรับฤดูกาลนี้การท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ ขอแนะนำ 3 แหล่งบ่อน้ำพุจากธรรมชาติที่คนไทยไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมาเที่ยวที่ไต้หวัน ประกอบด้วย

1.น้ำพุเย็นซูเอ้า (Su’ao Cold Spring Park) ตั้งอยู่ทางใต้ของเขตอี๋หลานเมืองติดทะล ที่มีท่าเรือติด 1 ใน 5 ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน

โดยน้ำพุเย็นซูเอ้ามีความโดดเด่นที่เป็นบ่อน้ำพุที่มีอุณภูมิในบ่อต่ำกว่า 22 องศาเซลเซียส มีการแบ่งระดับความลึก เพื่อให้เด็กเล็กสามารถลงแช่ได้ ที่สำคัญถือว่าเป็นน้ำพุเย็นไม่กี่แห่งบนโลก ที่มีน้ำใสสะอาด ไม่มีกลิ่น มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณสูง สามารถนำไปผลิตน้ำอัดลมและน้ำดื่มคุณภาพสูงได้

นอกจากนั้น การแช่น้ำพุเย็นจะช่วยฟื้นฟูร่างกายได้เร็วขึ้น เหมาะกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย ที่สำคัญของฝากชื่อดังที่ห้ามพลาดเมื่อไปเยือนบ่อน้ำพุเย็นซูเอ้า คือ เค้กเยลลี่แสนอร่อย ที่ใช้น้ำจากน้ำพุเย็นมาเป็นส่วนผสม ด้านการเดินทางสามารถมาได้โดยรถไฟธรรมดา (TRA) ลงที่สถานี Su’ao จากนั้นเดินเท้าต่ออีกประมาณ 5 นาที

2.หุบเขาบ่อน้ำพุร้อน (Thermal Valley) ตั้งอยู่ในเมืองไทเป เขตเป่ยโถ่ว เป็นบ่อน้ำพุร้อนสาธารณะที่มีชื่อเสียงและใหญ่ที่สุดในไต้หวัน มีอุณภูมิในบ่ออยู่ระหว่าง 37 ถึง 40 องศาเซลเซียส และอุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติมากมาย อีกทั้ง ควันกำมะถันที่ลอยฟุ้งที่ขึ้นมาเหนือน้ำตลอดทั้งปี ทำให้การแช่น้ำพุร้อนที่นี่เปรียบเสมือนการได้นั่งเล่นอยู่บนสรวงสวรรค์

ไฮไลต์อีกอย่างของการมาแช่น้ำพุร้อนที่นี้คือ การได้นอนแช่บ่อน้ำพุร้อนเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ พร้อมชมวิวทิศทัศน์ที่สวยงามของสวนดอกไม้โดยรอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดอกซากุระสีแดงบานสะพรั่งเต็มทิวเขา ดึงดูดให้เหล่าซากุระเลิฟเวอร์ให้ต้องมาเยือนบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ ด้านการเดินทางนักท่องเที่ยวสามารถมาได้โดยรถไฟฟ้า MRT และลงสถานี Beitou

และ 3.บ่อน้ำพุร้อนอาลี่ซือ (Alishi) ตั้งอยู่ภาคเหนือเมืองอี๋หลาน เขตซูเอ้า ของไต้หวัน โดยบ่อน้ำพุร้อนอาลี่ซือ มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 22 องศาเซลเซียส และอุดมไปด้วยแร่ธาตุชั้นดีอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้น้ำพุร้อนบริเวณนี้มีคุณภาพน้ำที่สะอาด สามารถนำมาดื่มได้

บริเวณด้านล่างพื้นบ่อน้ำพุร้อนจะมีก้อนหินชิ้นเล็ก ๆ จำนวนมาก เมื่อเหยียบขณะแช่เท้าในน้ำพุร้อน จะทำให้รู้สึกสบาย ผ่อนคลาย และทำให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ด้านการเดินทาง สามารถมาได้โดยรถไฟธรรมดา (TRA) ลงที่สถานี Su’ao จากนั้นเดินเท้าต่ออีกประมาณ 3 นาที

“ไต้หวันน่าจะเป็นประเทศที่ตอบโจทย์มากที่สุดในเรื่องของการท่องเที่ยว ด้วยชื่อเสียงในเรื่องอาหารที่มีให้เลือกหลากหลาย สถานที่ท่องเที่ยวตอบโจทย์คนทุกกลุ่ม และยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างออนเซ็น ที่มีทั้งน้ำพุร้อนและน้ำพุเย็นธรรมชาติให้เลือกตามความต้องการ โดยในไต้หวันเองมีบ่อน้ำพุร้อนกว่า 100 แห่ง กระจายอยู่ในเกือบทุกเมือง” รายงานข่าวระบุ

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/tourism/news-1136476

Leave a Reply

Or

Your email address will not be published. Required fields are marked *