ช่วงปลายปีแบบนี้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเริ่มมองหาสถานที่เติมบุญเสริมสิริมงคลให้ชีวิต ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันแล้ว แต่สำหรับใครที่ยังไม่มีไอเดีย เราขอแนะนำให้ลองปักหมุดจุดหมายน่าสนใจใน ‘ภาคอีสาน’ อัดแน่นไปด้วยพลังแห่งศรัทธาและความเชื่อ หากคุณชื่นชอบการขับรถเที่ยวเป็นทุนเดิม พูดได้เลยว่าเส้นทางและจุดหมายนับจากนี้เหมาะกับคุณมาก
เริ่มกันที่จุดหมายแรกอย่าง ‘วัดป่าภูก้อน’ ในจังหวัดอุดรธานี ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม แม้จะเพิ่งสร้างได้ไม่นาน แต่ได้รับการยกให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนชาวอีสานอีกแห่งเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อคุณมาถึงอุดรธานี ให้ขับรถไปตามทางหลวง เส้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดหนองคาย เพื่อพุ่งตรงสู่วัดป่าภูก้อน ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองอุดรธานีประมาณ 125 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 2 ชั่วโมง
พอมาถึง สิ่งแรกที่คุณจะได้สัมผัส คือ บรรยากาศแห่งความเงียบสงบ เพราะวัดป่าแห่งนี้รายล้อมด้วยป่าไม้เขียวชอุ่มและต้นน้ำลำธาร เหมาะกับการมานั่งบำเพ็ญภาวนาอย่างยิ่ง และเมื่อทอดสายตาไปยังพระวิหาร ความโดดเด่นอยู่ตรงที่สถาปัตยกรรมไทยประยุกต์สมัยรัตนโกสินทร์ ภายในได้รับ
การตกแต่งอย่างวิจิตรจับตา บนผนังเป็นภาพปั้นนูนต่ำหล่อด้วยทองแดงจำนวน 22 ช่อง บอกเล่าเกี่ยวกับ ‘ทศชาติ‘ ของพระพุทธเจ้า สะท้อนถึงเรื่องราวการสั่งสมบุญบารมีด้วยความพากเพียรและเสียสละ
นอกเหนือจากพระวิหาร จุดสำคัญภายในวัดป่าภูก้อนที่รับประกันได้ว่าจะติดตาตรึงใจคุณแน่นอน คือ พระบรมสารีริกธาตุ บรรจุในพระเกศพระร่วงโรจน์ศรีบูรพา ซึ่งเป็นประธานประดิษฐานหน้าองค์พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์ มี ‘พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี’ พระพุทธไสยาสน์หินอ่อนสีขาวขนาดใหญ่ ความยาวถึง 20 เมตร สวยงามจับตาผู้มาเยือนอย่างเรา ๆ ยิ่ง และยังมีพระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์ และสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุกับรูปปั้นหินอ่อนของเหล่าเกจิอาจารย์ชื่อดังของเมืองไทยด้วย
สำหรับจุดหมายต่อไป ใครมาเยือนถึงอุดรธานีแล้วไม่มา ‘ป่าคำชะโนด’ ถือว่าพลาดมาก โดยเฉพาะคนทีศรัทธาในตำนาน ‘พญานาค’ หนึ่งในความเชื่อและแรงศรัทธาของทั้งชาวไทยและชาวลาว ที่คอยปกปักษ์รักษาผู้คนในแถบลุ่มแม่น้ำโขง เพราะป่าคำชะโนด คือ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านต่างศรัทธาอย่างแรงกล้า ด้านในเป็นที่ตั้งของ ‘ศาลเจ้าปู่ศรีสุทโธ’ โดยตามตำนานเล่าขาน ฝั่งไทยและฝั่งลาวต่างมีกษัตริย์แห่งนาคราชแยกปกครองดูแล โดยฝั่งไทย คือ พญาศรีสุทโธนาคราช เป็นพญานาคหนึ่งเศียร ส่วนฝั่งลาว คือ พญาศรีสัตตนาคราช เป็นพญานาคเจ็ดเศียร
ดังนั้น เพื่อให้ทริปเก็บแต้มบุญเสริมพลังศรัทธาอัดแน่นด้วยความจุใจและครบถ้วนทุกจุดหมาย เราขอแนะนำให้คุณขับรถมุ่งหน้าไปยังตัวเมือง จังหวัดนครพนม เพราะที่นั่น คือ ที่ตั้งของรูปปั้น ‘พญาศรีสัตตนาคราช’ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม มีนักท่องเที่ยวมาเยือนจำนวนมากตลอดทั้งปี
โดยพื้นที่ริมแม่น้ำโขง ทางจังหวัดนครพนมได้พัฒนาเส้นทางจักรยาน สำหรับปั่นเลียบแม่น้ำเป็นระยะทางกว่า 75 กิโลเมตร เริ่มจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 ไปจนถึง ‘วัดพระธาตุพนม’ ตามยุทธศาสตร์ส่งเสริมการท่องเที่ยวลุ่มแม่น้ำโขง และประชาสัมพันธ์ให้เส้นทางจักรยานทัวร์เดอโขงเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น นักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถจักรยานจากโรงแรมหรือตามร้านที่เปิดให้เช่าบริเวณริมโขง รับประกันความชิลกับวิวทิวทัศน์ฝั่ง สปป.ลาว โดยเฉพาะเทือกเขาเรียงตัวเป็นแนวยาวสวยงาม ชนิดที่สามารถนั่งมองได้ตลอดทั้งวัน ทั้งนี้ ทางจังหวัดนครพนมวางเป้าหมายก่อสร้างทางจักรยานให้แล้วเสร็จในปี 2562 โดยขณะนี้ก่อสร้างทางขี่ไปแล้วในระยะแรก เป็นระยะทาง 14 กิโลเมตรแรก ตั้งต้นจากสะพานมิตรภาพฯ มาถึงรูปปั้นพญาศรีสัตตนาคราช
ไหน ๆ ก็มาเยือนจังหวัดแถบลุ่มแม่น้ำโขงเพื่อตามรอยพญานาคแล้ว ถ้าไม่เลยไปจังหวัดมุกดาหาร บอกได้คำเดียวว่าเสียดายแย่ เพราะตอนนี้จังหวัดมุกดาหารมีแลนด์มาร์กแห่งใหม่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัสความสวยสดหมดจด อย่าง ‘องค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช’ เป็นรูปปั้นพญานาคใหญ่ยักษ์อลังการ ตั้งอยู่บนภูเขาสูงในพื้นที่วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ตำบลนาสีนวน อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร มีลักษณะนอนขดตัวไปมาและชูลำคอสูงสง่าหันไปทางแม่น้ำโขงเบื้องล่าง ลำตัวยาวถึง 122 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.50 เมตร สูงประมาณ 20 เมตร มีสีเขียวอมฟ้า สะท้อนแสงสวยงาม โดยเฉพาะยามแดดต้อง ชวนให้นักท่องเที่ยวหลงใหลลวดลายวิจิตรบรรจงของรูปปั้นองค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช สง่าทว่าเกรงขามในคราวเดียว
สำหรับโรงแรมน่าสนใจใน 3 จังหวัดตามเส้นทางอิ่มบุญที่เราอยากแนะนำให้ไปลองเช็คอินกันนั้น หากคุณมองหาตัวเลือกที่พักบรรยากาศดีใจกลางเมืองอุดรธานี ’ประจักษ์ตา ดีไซน์ โฮเทล’ น่าจะตอบโจทย์ได้ดี เพราะตั้งอยู่ใกล้สวนสาธารณะหนองประจักษ์ เช้า ๆ คุณสามารถเดินลงมาสูดอากาศเดินเล่นผ่อนคลายอารมณ์ก่อนขับรถออกไปเที่ยวได้
ส่วนที่พักในนครพนม ต้องนี่เลย ‘อาร์-โฟโต้ โฮเทล’ ไม่ไกลจากตัวเมือง ห่างจากสนามบินประมาณ 20 กิโลเมตร สามารถขับรถต่อเพื่อไปนมัสการพระธาตุพนมได้ ใช้เวลาเพียง 50 นาทีเท่านั้น รูปลักษณ์การตกแต่งทั้งภายนอกและภายในยึดสไตล์โมเดิร์น ชูเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผ่านบุคลิกของโรงแรมที่หลงใหลในการศิลปะการถ่ายภาพเอามาก ๆ หากคุณนิยมชมชอบการเก็บความทรงจำด้วยภาพถ่าย เชื่อเหลือเกินว่าจะตกหลุมรักโรงแรมแห่งนี้ได้ไม่ยาก เพราะตามมุมต่าง ๆ ของโรงแรมประดับด้วยกล้องถ่ายรูปเก่า ๆ และงานศิลปะภาพถ่ายนำเสนอวิถีชีวิตของชาวนครพนม รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ
ด้านที่พักในตัวเมืองมุกดาหาร เนื่องจากเป็นจังหวัดที่อยู่ติดแม่น้ำโขงเหมือนนครพนม บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความร่มรื่น ชวนให้รู้สึกสบายตาสบายใจ ‘โรงแรมริเวอร์ซิตี้ มุกดาหาร’ ตั้งอยู่บนถนนมุกดาหาร – ดอนตาล ใกล้ตลาดอินโดจีน จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่ามอง หรือจะลองเช็คอินที่โรงแรมสไตล์ฝรั่งเศส ‘Hotel de Ladda’ ติดริมแม่น้ำโขงเช่นกัน ตั้งอยู่บนถนนสำราญชายโขงใต้
และนี่ คือ ‘ทริปอิ่มบุญ เสริมศรัทธา’ เหมาะกับชวนเพื่อนฝูงหรือคนในครอบครัวไปเที่ยวชมและกราบไหว้ขอพรเสริมสิริมงคลส่งท้ายปีเก่าก่อนก้าวสู่ปีใหม่อย่างยิ่ง
You may also like
-
“เที่ยวล้างแค้น” เช็ค 5 ข้อควรรู้ก่อนไปท่องเที่ยวเมืองนอก
-
เล่นเซิร์ฟล้อคลื่น ‘เขาหลัก’
ปักหมุดโรงแรมเก๋-ร้านอาหารใต้สไตล์พังงา -
เที่ยว”แม่ฮ่องสอน”แบบรักษ์โลก : บ้านรักไทย ไร่ชา สวยไม่แพ้กัน
-
‘เที่ยวหรู อยู่แพง!’ ตลาด ‘ลักซ์ชัวรี’ มีดีต้องเจาะ ฝ่าพายุเศรษฐกิจโลกถดถอย!
-
จิตรกรรมฝาผนังรามเกียรติ์”บ้านพิบูลธรรม”งานฝีมือที่หาชมได้ยาก