เรื่องทะเลหมอก… ไว้ใจ ‘เบตง’

ภาพจำส่วนใหญ่ของแหล่งท่องเที่ยวในภาคใต้ คำว่า ‘หาดสวย ทะเลใส’ มักจะพุ่งขึ้นมาในหัวเสมอ ทว่าเมื่อเจอทะเลในเมืองเล็กนาม ‘เบตง’ อำเภอดังของจังหวัดยะลา กลับไม่ใช่ทะเลมีคลื่นอย่างที่คุ้นเคยกัน แต่เป็น ‘ทะเลหมอก’ ท่ามกลางความสวยสดของเทือกเขาสันกาลาคีรีที่โอบกอดเมืองเอาไว้ มอบอากาศบริสุทธิ์เป็นของขวัญ รอต้อนรับเหล่าผู้คนที่เลือกปักหมุดมาเบตงเพื่อมอบรางวัลให้ตัวเอง

‘สกายวอล์ค อัยเยอร์เวง’ คือ แลนด์มาร์กสำคัญ และได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนพลิกโฉมเมืองใต้สุดแดนสยามให้มีพลังดุจแม่เหล็ก ดึงดูดผู้คนมากหน้าหลายตามาทักทายธรรมชาติ สามารถชมวิวทะเลหมอกได้จากทุกชั้นของอาคารสูง 6 ชั้นซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาไมโครเวฟ หรือที่ตั้งของสถานีถ่ายทอดสัญญาณการสื่อสาร ไฮไลต์ของสกายวอล์ค อัยเยอร์เวงอยู่ที่ชั้น 3 เป็นระเบียงทอดตัวยาวออกไปจากอาคาร ส่วนปลายของพื้นระเบียงเป็นกระจกใสแบบครึ่งวงกลม นอกจากจะเป็นมุมมหาชนในการชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งสางแล้ว หากมองผ่านกระจกใสลงไป จะเห็นผืนป่าเบื้องล่างชวนให้รู้สึกหวาดเสียวนิด ๆ

นอกเหนือจากแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอย่าง สกายวอล์ค อัยเยอร์เวง แล้ว ที่เบตงยังมีจุดชมวิวทะเลหมอกอีกหลายแห่งให้ได้ไปพิชิตกัน หนึ่งในนั้น คือ ‘ยอดเขาฆูนุงชีลีปัต’ หรือ เขาหิน กม. 21 เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายเทรลอย่างยิ่ง เพราะนี่คือยอดเขาสูงที่มีทะเลหมอก 360 องศา รายล้อมรอบด้าน สวยจนต้องหยุดหายใจ รวบรวมทุกประสาทสัมผัสชื่นชมและเก็บเกี่ยวความงามเต็มสายตา ขณะที่ช่วงกลางคืนยังสามารถชมดาวและหมู่ดาวทางช้างเผือกได้อย่างชัดเจน

เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับการแลกความเหนื่อยยาก เพราะการเดินทางมายังยอดเขาฆูนุงชีลีปัตนั้น ต้องใช้รถยนต์แล้วเดินเท้าตามแนวสันเขามาจนถึงบนยอดเขาซึ่งเป็นลานหินโล่งขนาดไม่กว้างนัก ทำให้ต้องมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินขึ้นมาครั้งละประมาณ 80 คน โดยสามารถพักในตัวเมืองเบตงที่มีให้เลือกจำนวนมาก เช่น โรงแรมแกรนด์วิวแลนด์มาร์ค โรงแรมเบตงซิตี้พลาซ่า และอื่น ๆ แล้วเดินทางมาในช่วงเช้ามืด หรือจะพักกางเต็นท์ค้างคืนบริเวณด้านล่างเขาก็ได้เช่นกัน

อีกแห่งที่ไม่อยากให้พลาด คือ ‘ทะเลหมอกกาแป๊ะฮูลู – กุนุงปะลง’ เป็นจุดชมวิว ‘ทะเลหมอกสองแผ่นดิน’ เหตุผลที่เรียกเช่นนั้นเพราะอยู่ใกล้พรมแดนระหว่างประเทศไทยกับมาเลเซีย มีความสูง 712 เมตรจากระดับน้ำทะเลสูงเป็นอันดับ 1 ในบรรดาจุดชมวิวทะเลหมอกของเบตง

ตบท้ายด้วย ‘ทะเลหมอกจาเราะกางา’ เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ให้อีกฟีลลิ่ง เพราะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่อยู่ใกล้เมืองที่สุด มองเห็นทะเลหมอกปกคลุมทั้งฝั่งไทยและมาเลเซีย สามารถชมแสงแรกของวันพร้อมกับหมอกปกคลุมในยามเช้า ในช่วงสาย ๆ เมื่อหมอกจางก็สามารถมองเห็นวิวอำเภอเบตงทั้งเมือง

นอกเหนือจากจุดชมวิวทะเลหมอกแล้ว เบตงยังมีแหล่งท่องเที่ยวโดดเด่นทางธรรมชาติอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น ‘บ่อน้ำร้อนเบตง’ ตั้งอยู่ในตำบลตาเนาะแมเราะ เหมาะกับการมานั่งแช่ออนเซ็นแบบชิล ๆ เติมอาหารให้ผิวพรรณและความกระปรี้กระเปร่าแก่ร่างกาย

‘สวนไม้ดอกเมืองหนาวเบตง’ ถือเป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวแห่งเดียวในภาคใต้ มีทั้งดอกไฮเดรนเยีย แอสเตอร์ เบญจมาศ กุหลาบ พีค็อก เยอบีร่า ลิลลี่ แกลดิโอลัส และตุ้มหูนางฟ้า เรียงแถวออกดอกบานสะพรั่งต้อนรับคนมาเยี่ยมชม

ส่วนใครอยากเดินเข้าป่า แน่นอนว่าต้องไม่พลาด ‘ป่าฮาลา-บาลา’ เนื่องจากป่าแห่งนี้เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของนกเงือกมากกว่า 10 ชนิด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์การวัดความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า สามารถเข้ามาเที่ยวชมสัมผัสความเขียวขจีอันสวยสด รับรองว่าถูกใจสายรักการส่องนก ทั้งยังมีกิจกรรมล่องเรือทะเลสาบป่าฮาลา-บาลา ในเขื่อนบางลางอีกด้วย

เก็บโปรแกรมเที่ยวแนวธรรมชาติจนครบ อย่าลืมเช็กอินจุดถ่ายรูปในตัวเมือง เช่น ‘หอนาฬิกาเมืองเบตง’ สร้างจากหินอ่อนอยู่กลางวงเวียนให้บรรดาผู้ใช้รถใช้ถนนได้สัญจร เสน่ห์คู่หอนาฬิกาแห่งนี้ คือ ในช่วงเดือนกันยายน – มีนาคมของทุกปี จะมีนกนางแอ่นอพยพนับพันจากไซบีเรียมาเกาะที่สายไฟบริเวณหอนาฬิกา เป็นอีกภาพแปลกตาชวนชม

ใกล้ ๆ กันตรงหัวมุมถนนของวงเวียน มี ‘ตู้ไปรษณีย์สูงใหญ่ที่สุดในโลก’ ตั้งตระหง่าน เป็นสัญลักษณ์การติดต่อสื่อสารของอำเภอเบตง เพราะนอกจากจะเป็นตู้ไปรษณีย์ที่ใช้งานส่งจดหมายเหมือนตู้ไปรษณีย์ทั่ว ๆ ไปแล้ว ยังได้ติดตั้งวิทยุกระจายเสียงไว้ตรงส่วนบนของตู้เพื่อให้ประชาชนได้รับฟังข่าวสารจากทางราชการ ใครแวะมาบริเวณนี้เป็นอันต้องขอเดินเข้าเฟรมเก็บภาพถ่ายไว้เป็นที่ระลึกกันทั้งนั้น

อย่างที่รู้กัน เบตงไม่ได้มีดีแค่แหล่งท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังมี ‘อาหารพื้นเมือง’ รสชาติแสนจะถูกปาก เริ่มกันด้วยเมนูห้ามพลาดอย่างแรก คือ ‘ไก่เบตง’ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นต้องลิ้มรส เพราะไก่ที่เลี้ยงให้เนื้อหวานนุ่ม ไม่เปื่อยยุ่ย หนังกรุบกรอบ ต่างจากหนังไก่ทั่วไป เมนูมีให้เลือกชิมมากมาย ทั้งไก่สับ ไก่ตุ๋นเครื่องยาจีน ไก่ตุ๋นมะนาวดอง ต้มยำไก่ และไก่ต้มซีอิ๊ว

เมนูขั้นเทพของเบตง ‘เคาหยก’ พิถีพิถันทุกขั้นตอนการทำ นำหมูสามชั้นมาผ่านกรรมวิธีปรุงเครื่องยาจีน เสิร์ฟพร้อมกับเผือกทอดเนื้อนุ่ม และอีกเมนูที่ชื่นชอบมาก ๆ คือ ‘ผักน้ำ’ มีลักษณะคล้ายผักชีล้อม ให้เนื้อสัมผัสนุ่มทว่ากรุบกรอบในตัว สามารถนำมาทำเป็นอาหารจานเด็ดได้หลายเมนู เช่น ผักน้ำผัดน้ำมันหอย ต้มจิ้มกับน้ำพริก ทำแกงจืด ต้มกับกระดูกหมู

‘ทุเรียน’ อีกหนึ่งของดีเบตงที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ได้รับความนิยมจากนักชิมทั้งชาวไทยและต่างชาติ รสชาติโดดเด่นเพราะความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุในดิน มีแหล่งน้ำที่สมบูรณ์ ผสานกับอากาศร้อนชื้น ทำให้ได้ทุเรียนรสชาติหวานมันลงตัว ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์หมอนทอง ก้านยาว ชะนี พวงมณี โอฉี่ และมูซังคิง (เหมาซานคิง)

ของดีของเด่นอัดแน่นเชื้อเชิญมากมายขนาดนี้ รีบออกตัวมาเที่ยว ‘เบตง’ กันเสียดี ๆ อย่าปล่อยให้คำว่า เสียดาย ค้างคาใจอีกต่อไป

kanokkan

See author's posts