Fri. Apr 19th, 2024
Philips แปลงร่างเป็น Signify รุกโกยตลาด B2B ประเทศไทยด้วย ‘ระบบแสงสว่างอัจฉริยะ’ และโครงการ ‘Free Survey’

Philips แปลงร่างเป็น Signify รุกโกยตลาด B2B ประเทศไทยด้วย ‘ระบบแสงสว่างอัจฉริยะ’ และโครงการ ‘Free Survey’

หลังจาก Philips Lighting ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น ‘Signify’ เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา เพื่อแยกแบรนด์อย่างชัดเจนออกจากสินค้าเพื่อสุขภาพและครัวเรือน ภายใต้ Signify N.V. บริษัทแม่ที่อัมเสตอร์ดัมที่นับจากนี้จะมุ่งพัฒนานวัตกรรมระบบแสงสว่างโดยเฉพาะ ซึ่งถ้านับแค่ในประเทศไทยมีการประมาณว่าตลาดแสงสว่างมีมูลค่าราว 2.6 หมื่นล้านบาท/ปี โดยเป็นตัวเลขจากผลิตภัณฑ์หลอดไฟ โคม และอุปกรณ์เท่านั้น ยังไม่รวมระบบควบคุมหรือ IoT

ชื่อใหม่ ‘Signify’ มีคำแปลว่า มีนัย / มีความหมายว่า / บ่งชี้ / ส่อแสดง ซึ่งมาจากความตั้งใจของ CEO คุณ Eric Rondolat ที่ได้กล่าวไว้ว่า

“The choice of our new company name originates from the way light becomes an intelligent language, which connects and conveys meaning. It is a clear expression of our strategic vision and purpose to unlock the extraordinary potential of light for brighter lives and a better world.”

“ชื่อบริษัทใหม่นี้ มาจากแนวคิดที่ว่า ‘แสงสว่าง’ จะกลายมาเป็นอีกภาษาอันชาญฉลาด มันสามารถเชื่อมต่อและสื่อสารความหมายต่าง ๆ ได้ นี่คือการยืนยันวิสัยทัศน์ของเราต่อเจตจำนงค์ที่จะเผยศักยภาพอันน่ามหัศจรรย์ของแสงสว่างเพื่อสร้างโลกที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น”

มาในปีนี้ Signify Commercial (Thailand) จึงโฟกัสการนำเสนอโซลูชั่นส์สำหรับองค์กรที่มีการใช้พลังงานแสงสว่างจำนวนมาก รวมถึงธุรกิจที่คุณภาพของแสงสว่างเป็นปัจจัยสำคัญ อาทิ โรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า โรงพยาบาล โรงแรม อาคารสำนักงาน โดยในสำนักงานใหญ่ที่อาคารไทยซัมมิต ถนนเพชรบุรี มีสตูดิโอจัดแสดงแอพลิเคชั่นด้านแสงสว่างแห่งเดียวในประเทศไทย อาทิ

● ห้อง Workshop ที่จำลองสำนักงาน แสดงให้เห็นหลอดไฟปรับระดับความสว่างได้ตามแสงธรรมชาติระหว่างวัน สามารถใช้ร่วมกับสวิทช์ไฟที่ไม่ต้องเดินสายและไม่ต้องใช้แบตเตอรี่
● Philips Hue – ฟิลลิปส์ ฮิว ระบบแสงสว่างด้านความบันเทิงและการสร้างบรรยากาศ สามารถควบคุมได้จากระบบอินเตอร์เน็ท ปรับเปลี่ยนเฉดสีและจังหวะการส่องสว่างได้หลายรูปแบบ รองรับการบันทึกแสงสีที่ต้องการจากสถานที่จริงด้วยกล้องสมาร์ทโฟน สามารถใช้ได้กับทั้ง Home Entertainment และธุรกิจการจัดอีเวนท์

Philips แปลงร่างเป็น Signify รุกโกยตลาด B2B ประเทศไทยด้วย ‘ระบบแสงสว่างอัจฉริยะ’ และโครงการ ‘Free Survey’

● จำลองห้องพักโรงแรมที่ติดตั้งระบบแสงสว่างเพื่อเสริมบริการและประสบการณ์ให้แก่แขกผู้มาพัก เช่น การปรับสีและความสว่างในห้องอัตโนมัติเพื่อให้การตื่นนอนเป็นไปอย่างธรรมชาติที่สุดโดยไม่ต้องใช้เสียงนาฬิกาปลุก เซนเซอร์จับการเคลื่อนไหวยามดึกเพื่อเลือกเปิดไฟนำทางสู่ห้องน้ำอย่างปลอดภัยและไม่รบกวนคนที่นอนข้าง ๆ การใช้ระบบ IoT ที่ติดตั้งกับหลอดไฟเพื่อเชื่อมต่อระบบการ check-in เข้าพัก การเปิดเครื่องปรับอากาศล่วงหน้า การรักษาความปลอดภัย หรือป้องกันการรบกวนจากแม่บ้าน โดยไม่ต้องเดินสายไฟให้ยุ่งยาก ฯลฯ
● สำหรับงานโรงแรม ยังมีการสาธิตแสงสว่างที่ช่วยเปลี่ยนผนังธรรมดาให้สามารถแสดงเรื่องราวหรือทิวทัศน์ภายนอกได้อย่างสมจริง และแสงสว่างบนทางเดินที่แสดงข้อความต้อนรับเป็นรูปและตัวอักษรแบบอัตโนมัติ

Philips แปลงร่างเป็น Signify รุกโกยตลาด B2B ประเทศไทยด้วย ‘ระบบแสงสว่างอัจฉริยะ’ และโครงการ ‘Free Survey’   Philips แปลงร่างเป็น Signify รุกโกยตลาด B2B ประเทศไทยด้วย ‘ระบบแสงสว่างอัจฉริยะ’ และโครงการ ‘Free Survey’

● ระบบแสงสว่างในห้างสรรพสินค้าที่ใช้ในการส่งเสริมสินค้าโปรโมชั่นด้วยแสงสีพิเศษที่จะทำงานเมื่อมีผู้ซื้อเดินเข้าใกล้
● การใช้แสงที่มีสีและความสว่างปรับเปลี่ยนได้ทุกวันให้เหมาะกับสินค้าต่าง ๆ ในร้าน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ ผลไม้ ขนมปัง ฯลฯ
● หลอดไฟอัจฉริยะที่สามารถควบคุมสีและความสว่าง รวมทั้งมาพร้อมคุณสมบัติ IoT ในตัวโดยไม่ต้องเดินสายไฟ ช่วยสร้างระบบแผนที่นำทางภายในอาคารได้อย่างแม่นยำกว่าการอาศัยดาวเทียม ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ในห้างสรรพสินค้าในการแนะนำโซนโปรโมชั่นต่าง ๆ หรือการวัด Traffic ได้อีกด้วย
● ไฟถนน ไฟลานจอดรถ และไฟลานกีฬา สำหรับธุรกิจ Smart City เพื่อให้แสงสว่างช่วยสร้างความปลอดภัยได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด
● นอกจากนี้ยังมีห้องสัมมนาเพื่อรองรับ System Integrators ด้านโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อแสดงให้เห็นว่า IoT ในหลอดไฟฟิลลิปส์สามารถเชื่อมต่อกับ Devices และระบบต่าง ๆ ได้อย่างไร

สรุปว่า อุปกรณ์แสงสว่างต่อจากนี้ต้องทำได้มากกว่าแค่การส่องแสง มันจะมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุก ๆ รายละเอียดด้วยเทคโนโลยีในการควบคุมแสงสว่าง ใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างคุ้มค่า รวมถึงเชื่อมต่อสื่อสารแบบ Interactive ระหว่างคน เหตุการณ์ สภาพแวดล้อม

Philips แปลงร่างเป็น Signify รุกโกยตลาด B2B ประเทศไทยด้วย ‘ระบบแสงสว่างอัจฉริยะ’ และโครงการ ‘Free Survey’

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงระบบไฟฟ้าแสงสว่างสำหรับอาคาร โรงแรม หรือโรงงาน เป็นเรื่องใหญ่และใช้งบประมาณสูง หลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับเอาหลอด LED จากต่างประเทศเข้ามาปริมาณมหาศาล ซึ่งต้องยอมรับว่าบางแบรนด์ก็คุณภาพดี ในขณะที่บางแบรนด์ก็เน้นราคาถูกที่สุดซึ่งแม้จะมาพร้อมกับการรับประกันเปลี่ยนหลอดฟรีแต่ก็ด้อยเรื่องการบริการ ซ้ำร้ายบางรายก็ปิดธุรกิจไปดื้อ ๆ ปล่อยให้ลูกค้าต้องเป็นธุระในการซ่อมบำรุงเอง

องค์กรที่เคยเจ็บจากหลอด LED ราคาถูก ๆ หรือถึงรอบ Replacement ใหญ่ในปีนี้ คงกำลังชั่งใจอย่างหนักว่าถึงเวลาใช้ระบบแสงสว่างอัจฉริยะหรือยัง เพราะเป็นการลงทุนที่สูงพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใช้คู่กับหลอดหรือโคมของฟิลลิปส์ ซึ่งเป็นสินค้าเกรดพรีเมี่ยมสุดในตลาด (ตัวสินค้ายังใช้ชื่อฟิลลิปส์อยู่ แต่บริษัทเปลี่ยนชื่อเป็น Signify) ถ้าคุณลังเล เรามีคำแนะนำให้คุณไว้พิจารณา

จุดเด่นระบบแสงสว่างของ Signify

1. Signify ไม่ได้ผลิตแค่หลอดหรือโคม แต่มองงานด้านแสดงสว่างเป็น Platform ดังนั้น การใช้อุปกรณ์คู่กับระบบของ Signify จึงมีความลงตัว ใช้งานสะดวก มี UX/UI ที่เข้าใจผู้ใช้
2. รองรับการเชื่อมต่อระบบอื่น ๆ และอัพเกรดแอพลิเคชั่นใหม่ ๆ ในอนาคต ไม่มีลอยแพ
3. แม้หลอดและโคมจะราคาสูงกว่าแบรนด์อื่น ๆ แต่ก็แลกด้วยคุณภาพ การรับประกัน การบริการ และความไว้วางใจได้แน่นอน – ระหว่างหลอด LED ราคาถูกที่รับประกันเปลี่ยนฟรีแต่ไม่รู้ต้องรอกี่วัน และสำหรับบาง Site งานที่เพดานสูงมาก ๆ ต่อให้มีหลอดสำรองก็ไม่ใช่เรื่องงานที่จะเปลี่ยนด้วยตัวเอง
4. มี Reference sites ครบทุกแบบ ทั้งคลังสินค้า โรงงาน อาคารสำนักงาน ถนน สวนสาธารณะ โรงแรม ซุปเปอร์มาร็เก็ต ฯลฯ เพื่อเป็นแนวทางเปรียบเทียบจุดคุ้มทุนอย่างเป็นรูปธรรม
5. พลิกโฉมอุปกรณ์แสงสว่างเป็น IoT Devices สื่อสารด้วยระบบดิจิตอล การควบคุม เชื่อมต่อ สั่งการต่าง ๆ แทบไม่ต้องมีการเดินสายไฟ – ลองคิดดูว่าถ้าคุณต้องการจัดการพลังงานแสงสว่างแยกเป็นยูนิตย่อย ๆ จะต้องเดินสายไฟสายสัญญาณมากขนาดไหน ถ้าสายไหนเสียหายก็ล่มทั้งยูนิต ปัญหานี้เทคโนโลยี IoT ช่วยได้มหาศาล

Philips แปลงร่างเป็น Signify รุกโกยตลาด B2B ประเทศไทยด้วย ‘ระบบแสงสว่างอัจฉริยะ’ และโครงการ ‘Free Survey’

ทางทีม Signify ประเทศไทยเองก็ดูจะเข้าใจความสงสัยของลูกค้าอย่างดี จึงได้นำเสนอโปรแกรม ‘Free Survey’ สำรวจและออกแบบโซลูชั่นส์แสงสว่างเบื้องต้นด้วยทีมวิศวกรและผู้วางระบบให้กับองค์กรที่สนใจ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ผู้บริหารจึงสามารถประเมินมูลค่าการลงทุนเทียบกับประโยชน์ที่จะได้รับก่อนตัดสินใจ


หากสนใจโครงการ ‘Free Survey’ สามารถติดต่อเพื่อขอนัดหมายได้ที่ เบอร์ 084-7000-141

Leave a Reply

Or

Your email address will not be published. Required fields are marked *