ไวรัสบุ๊กกิ้งหด40% ดุสิตหัวหิน ทุ่ม400ล้านปรับโฉม

ไวรัสโควิด-19 ฉุดอัตราเข้าพักเฉลี่ยโรงแรมหัวหิน-ชะอำ เหลือ 50-60% ดุสิตธานี หัวหิน เผยกรุ๊ปไมซ์เลื่อน บุ๊กกิ้งใหม่หด คาดธุรกิจจะกลับมาช่วง Q 3-4 ปีนี้ ทุ่ม 400 ล้านบาทปรับโฉมโรงแรมใหม่

นายพิพัฒน์ พัฒนานุสรณ์ ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ผลกระทบจากไวรัสโคโรนา หรือไวรัสโควิด-19 สำหรับการท่องเที่ยวในพื้นที่หัวหิน-ชะอำ ส่งผลให้โรงแรมในพื้นที่นี้มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 50-60% ลดลง 30-40% จากก่อนหน้านี้ที่ 80-90% เนื่องจากกรุ๊ปทัวร์ถูกยกเลิก โดยเฉพาะกรุ๊ปไมซ์ (ประชุม สัมมนา การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล) ประกอบกับยอดการจองใหม่มีน้อยลง

“การแพร่ระบาดของไวรัสนี้ เป็นโกลบัล ไครซิส ทำให้นักท่องเที่ยวชาติต่างๆ ก็ไม่อยากเดินทางท่องเที่ยว เพราะกลัวติดไวรัส การหาตลาดอื่นมาทดแทนจีนผมว่าไม่ง่าย โดยลูกค้าหลักแม้จะเป็นคนไทยที่จะเที่ยวช่วงวีกเอนด์ ซึ่งก็มีแนวโน้มเดินทางอยู่โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว แต่ลูกค้าต่างชาติ อย่าง อินเดีย จีน ยุโรปสหรัฐอเมริกา ชะงักไป และที่ผ่านมาจีนก็มีอิทธิพลต่อการท่องเที่ยวของไทยและทั้งโลก ไม่ใช่แค่หัวหิน-ชะอำ”

ดังนั้น หากกระทรวงสาธารณสุขของไทยรับมือไวรัสได้ และจีนสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสได้ภายในไม่เกินเดือนเมษายนนี้ ในส่วนของโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ก็มองว่าผลกระทบจะเกิดขึ้นในช่วง Q1 และ 2 ปีนี้ แต่จะกลับมาในช่วง Q3 และ 4 ของปีนี้ เนื่องจากกรุ๊ปไมซ์ที่จองไว้ได้เลื่อนจากจัดงานไปอยู่ในช่วงดังกล่าวแทน

การส่งเสริมการท่องเที่ยวท่ามกลางภาวะวิกฤติเช่นนี้ การจะไปกระตุ้นตลาดหรือทำโปรโมตเชิงรุกในขณะนี้ยังไม่น่าจะเหมาะสม เพราะคนกลัวการเดินทางท่องเที่ยว และมองว่าการลดแลกแจกแถมสำหรับดุสิตธานี ถือว่าไม่ตอบโจทย์เพราะเป็นการลดมูลค่าตลาด ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือการพลิกวิกฤติเป็นโอกาส เน้นการสื่อสารที่ทำให้เกิด Positive Impact

ไม่ว่าจะเป็นการส่งความปรารถนาดีห่วงใยคนจีน ซึ่งล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี สมาคมโรงแรมภาคตะวันตก หน่วยงานต่างๆ และโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ได้ถ่ายภาพหน้าโรงแรมแสดงพลังขอให้จีนหายป่วยโดยเร็ว รวมทั้งการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ซึ่งดุสิตธานี ออกประกาศให้พนักงานทุกคนใส่หน้ากากการติดตั้งเจลล้างมือในพื้นที่ส่วนกลาง พ่นยาฆ่าเชื้อทุกครั้งหลังลูกค้าเช็กเอาต์ และล้างแอร์ทุกเครื่อง เป็นต้น

ขณะเดียวกันก็จะใช้วิธีบริหารจัดการการให้บริการ ในระหว่างที่นักท่องเที่ยวลดลงในช่วงนี้ โดยมองเรื่องการประหยัดพลังงาน เช่น การจัดโซนพื้นที่ห้องพัก เพราะดุสิตธานี หัวหิน มี 4 อาคาร ก็จัดโซนให้ลูกค้ามาพักในอาคารเดียวกัน การบริการทุกอย่างเหมือนเดิมเป็นต้น

นอกจากนี้ดุสิตธานี พัทยา ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงโรงแรมครั้งใหญ่ ภายใต้การลงทุนราว 400 ล้านบาท เนื่องจากเปิดให้บริการมากว่า 30 ปีแล้ว โดยจะปรับปรุงห้องพักในส่วนที่เหลืออีก 92 ห้องในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ แล้วเสร็จในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจะปิดปรับปรุงทั้งอาคาร ทำให้ลูกค้าจะไม่รู้สึกเลยว่าโรงแรมมีการปรับปรุงห้องพักใหม่ หลังจากในปีนี้ห้องพักโฉมใหม่ได้เปิดให้บริการแล้ว 204 ห้อง การปรับปรุงห้องรอยัลดุสิตแกรนด์บอลรูมแล้วเสร็จไปแล้ว โดยห้องพักโฉมใหม่ จะยังคงเอกลักษณ์ความโอ่โถง หรูหรา ทันสมัย ด้วยการนำแนวคิดของการออกแบบสถาปัตยกรรมของพระราชวังฤดูร้อนมาประยุกต์

อีกทั้งยังอยู่ระหว่างรวมศูนย์ออกกำลังกายและสปาของโรงแรม ให้เป็นยูนิตเดียวกัน สร้างจุดขายความเป็นเวลเนส เซ็นเตอร์ รองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวยุคนี้ที่ใส่ใจการดูแลและรักษาสุขภาพเพิ่มขึ้น ทั้งโรงแรมยังมองเรื่องของการสัมผัสประสบการณ์ด้านไลฟ์ไตล์ ที่แปลกใหม่เมื่อมาพัก โดยในอนาคตหากลูกค้าอยากทานขนมขึ้นชื่อในพื้นที่นี้ อาทิ มะม่วงป้าเจือ ขนมแม่เก็บ ลูกค้าก็สามารถให้โรงแรมสั่งให้ได้ เป็นต้น

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

https://www.thansettakij.com/content/business/422054

kanokkan

See author's posts