การประชุมสมาชิกร่วมระหว่าง ATTA และ THA ครั้งที่ 19 
THA ร่วมประชุมแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 
สมาคมโรงแรมไทย ร่วมลงนาม MOU เพิ่มศักยภาพแรงงานไทย 
ทะลักญี่ปุ่น! “เอนก ศรีชีวะชาติ” เจ้าตลาดญี่ปุ่นเผยคนไทยแห่เที่ยวต่อเนื่อง แพ็กเกจทัวร์ช่วงปลายปีขายเกลี้ยง ลุ้นสายการบินเพิ่มที่นั่งรองรับดีมานด์ คาดสิ้นปี’66 คนไทยเที่ยวญี่ปุ่นแตะ 1.3 ล้านคนเท่าก่อนโควิด ด้าน ททท.เร่งเจรจาสายการบินญี่ปุ่นบินเข้าไทย ชี้หลังมกราคมปีหน้าสถานการณ์กลับคืนภาวะปกติ
นายเอนก ศรีชีวะชาติ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น และประธานบริษัท ยูนิไทย แทรเวล จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากทางการญี่ปุ่นประกาศผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตั้งแต่ 11 ตุลาคม 2565
พบว่ามีคนไทยเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตนเอง (FIT) ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านบริษัททัวร์ก็เติบโตขึ้นเช่นกัน
โดยในส่วนของบริษัทยูนิไทยนั้น คาดว่าในเดือนพฤศจิกายนนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นผ่านบริษัทราว 8,000 คน จากจำนวนราว 700 คนในเดือนมิถุนายน และ 6,000 คนในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
“ตลาดการท่องเที่ยวญี่ปุ่นช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ ภาพรวมทัวร์อื่น ๆ น่าจะเกือบเต็มหมดแล้ว ส่วนของบริษัท ยูนิไทยเต็มหมดแล้ว ถ้าจะมีแพ็กเกจเพิ่มเติมก็อยู่ที่ว่าสายการบินจะเพิ่มที่นั่ง-ความถี่เที่ยวบินหรือไม่” นายเอนกกล่าว และคาดว่าในปี 2566 ชาวไทยที่เดินทางไปญี่ปุ่นจะสูงถึง 1 ล้านคน
เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะกับคนทุกช่วงวัย ประกอบกับค่าเงินเยนที่ยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินบาท และหากมีการผ่อนคลายมาตรการการเข้าออกพรมแดนอย่างเต็มที่ ไม่มีการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ๆ เข้ามาแทรกซ้อน นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางไปยังญี่ปุ่นน่าจะสูงถึง 1.3 ล้านคน เทียบเท่ากับปี 2562 ก่อนการระบาดของโควิด-19
สำหรับตลาดอินบาวนด์หรือนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้าประเทศไทยนั้น พบว่ายังมีจำนวนไม่มากนัก ส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาบัตรโดยสารเครื่องบินมีไม่เพียงพอ จากการที่คนไทยเดินทางไปญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก ประกอบกับค่าเงินเยนต่อเงินบาทยังอ่อนค่าต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางของชาวญี่ปุ่นสูงขึ้น
“ในมุมมองของผู้ประกอบการทัวร์จำเป็นต้องคำนึงถึงตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยร่วมด้วย โดยต้องเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามา รวมถึงมองตลาดใหญ่อย่างจีน หากรัฐบาลจีนยังไม่เปิดประเทศก็ต้องมองหาตลาดการท่องเที่ยวอื่นทดแทน เช่น ตลาดอาเซียน รัสเซีย” นายเอนกกล่าว
สอดคล้องกับนายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยเดินทางไปญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาที่นั่งของสายการบินมีจำนวนน้อยกว่าความต้องการเดินทาง นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเดินทางมายังประเทศไทยอาจต้องเจอกับปัญหาสำรองบัตรโดยสารเดินทางกลับได้ยาก หรือมีราคาแพง
โดยปัจจุบันมีสายการบินของประเทศไทยที่ให้บริการเส้นทางไทย-ญี่ปุ่น เพียงแค่ 3-4 รายเท่านั้น อาทิ ไทยแอร์เอเชีย, ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์, การบินไทย, ไทยเวียตเจ็ท และข้อมูลล่าสุดพบว่าหลายสายการบินมีแผนเพิ่มความถี่เพื่อให้กลับมาเปิดเส้นทางที่เคยให้บริการอยู่เดิม
ทั้งนี้ ททท.ได้วางแผนแก้ปัญหาโดยการเตรียมเจรจากับสายการบินสัญชาติญี่ปุ่นให้มากขึ้น แต่เบื้องต้นเชื่อว่าหลังช่วงกลางมกราคม 2566 เป็นต้นไป สถานการณ์จะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ แต่นักเดินทางอาจจะยังต้องเจอราคาบัตรโดยสารที่แพงกว่าอดีตอยู่
“ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-30 ตุลาคม 2565 มีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเดินทางมายังประเทศไทยแล้ว 219,260 คน เชื่อว่าตลอดทั้งปีนี้น่าจะมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นสะสมประมาณ 350,000 คน” นายชูวิทย์กล่าว
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/tourism/news-1126212
