การประชุมสมาชิกร่วมระหว่าง ATTA และ THA ครั้งที่ 19 
THA ร่วมประชุมแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 
สมาคมโรงแรมไทย ร่วมลงนาม MOU เพิ่มศักยภาพแรงงานไทย 
การท่องเที่ยวคืออุตสาหกรรมหลักของจังหวัดภูเก็ตที่หล่อเลี้ยงชีวิตคนในพื้นที่ แต่หลังเกิดวิกฤตโควิด-19 น่านฟ้าระหว่างประเทศถูกปิด นักท่องเที่ยวต่างชาติ และคนไทยหยุดการเดินทาง จึงเป็นเหตุให้เศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตกลายเป็นศูนย์ ซบเซาอย่างหนัก ล่าสุดภาครัฐและเอกชนได้พยายามกระตุ้นให้คนไทยเข้าไปท่องเที่ยวในภูเก็ตระหว่างที่รัฐบาลยังไม่เปิดให้ต่างชาติบินเข้ามาด้วยการจัดงาน “ภูเก็ต…เด็ดทั้งเกาะ” โหมโปรโมชั่นโรงแรมที่พักเฉลี่ย 50-80%
นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า วิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ตที่มีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว และพึ่งพานักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ จากการประมาณสถานการณ์ในช่วงไตรมาส 1-2 ธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สูญเสียรายได้ไม่น้อยกว่า 160,000 ล้านบาท และปัจจุบันยังไม่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ ส่งผลให้เกิดปัญหาการจ้างงานด้วย ทางจังหวัดภูเก็ตและภาคเอกชน มีความเห็นตรงกันต้องเร่งฟื้นฟูและกระตุ้นการท่องเที่ยว จึงได้จัดงานมหกรรมท่องเที่ยว “ภูเก็ต…เด็ดทั้งเกาะ” โดยจัดโปรโมชั่นโรงแรมและรีสอร์ต ในราคาพิเศษให้กับลูกค้าที่สนใจ
นอกจากนี้ มีการจัดงาน “Phuket Tastival Seafood & Gastronomy : หรอยริมเล เฟสติวัล” ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน โดยจะเริ่มต้นในวันที่ 15-17 สิงหาคม 2563 มีกิจกรรมต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ในพื้นที่แต่ละชายหาด ได้แก่ สะพานหิน ราไวย์ ป่าตอง อ่าวฉลอง เมืองเก่าภูเก็ต และเชิงทะเล เพื่อเป็นการตอกย้ำเอกลักษณ์ของอาหารจังหวัดภูเก็ตที่ได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร เป็นการเชื่อมโยงอาหาร วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวผสมผสานเข้าด้วยกัน
“ภูเก็ตถือเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ทำรายได้ไม่น้อยกว่า 4 แสนล้านบาทต่อปี หากภูเก็ตฟื้นเท่ากับว่าฟื้นประเทศไทยไปด้วย เรามีธรรมชาติและอาหาร การสาธารณสุข พร้อมรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และจากประสบการณ์ติดโควิดเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศในช่วงที่ผ่านมาทำให้มีประสบการณ์และมีการเตรียมพร้อมมากมาย สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวได้ดีมาก ตอนนี้ภูเก็ตปลอดภัยจากโควิด-19 และไม่ได้แพงอย่างที่คิด”
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดภูเก็ตได้ยุติลงแล้วและทางจังหวัดสามารถควบคุมการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ได้มีการคลาย lockdown และอนุมัติให้เปิดบริการท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ ตั้งแต่เมื่อกลางเดือนมิถุนายน 2563 ส่งผลเป็นปัจจัยบวกให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในจังหวัดเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว มีสายการบินภายในประเทศ 5 สายการบิน12 เที่ยวบินต่อวัน จาก กทม. เกาะสมุย เชียงราย และอู่ตะเภา คาคว่าจะเริ่มบินจากพื้นที่อื่น ๆ ในอีกไม่นาน เช่น อุดรธานี เชียงใหม่
ด้านสภาพศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตที่ผ่านมาได้รับการขับเคลื่อนจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว ปี 2562 มีนักท่องเที่ยวรวม 14.4 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ล้านคน ในจำนวนนี้แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวจีน3 ล้านคน และชาวไทย 4 ล้านคน มีรายได้รวมจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกว่า 480,000 ล้านบาท สถานการณ์โควิด-19 จึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของภูเก็ตอย่างมาก สมาคมจึงได้ร่วมกับองค์กรเอกชนต่าง ๆ และหน่วยงานภาครัฐเร่งหามาตรการช่วยเหลือ และเยียวยาผู้ประกอบการหลายพันรายในภูเก็ต แม้ไม่สามารถชดเชยรายได้ที่หายไปจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่อย่างน้อยทำให้ผู้ประกอบการอยู่รอดจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่สภาวะปกติ คาดว่าเร็วที่สุดประมาณกลางปี 2564
“ภูเก็ตพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทย เพราะไม่มีผู้ติดเชื้อมาไม่น้อยกว่า 60 วัน ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นสิ่งเดียวที่หล่อเลี้ยงคนภูเก็ต รัฐควรเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวต่างชาติบินลงสนามบินภูเก็ตได้ นอกเหนือจากบินเข้า กทม.อย่างเดียว เพราะดีมานด์ลูกค้าต่างชาติหลายรายต้องการบินด้วยเครื่องบินส่วนตัวหรือชาร์เตอร์ไฟลต์ เข้ามากักตัวที่ภูเก็ต 14 วัน แน่นอนว่าจะอยู่เกิน 14 วัน หากรัฐบาลอนุญาตให้บินมาลงที่ภูเก็ตได้จะทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้ ตอนนี้ได้รับการประสานงานจากหลายฝ่ายเพื่อเสนอให้นักท่องเที่ยวเข้ามากักตัว เป็นอีกหนึ่งแนวทางหนึ่่งที่ให้ภูเก็ตได้รับประโยชน์ และคนในพื้นที่ก็เข้าใจในบริบทการท่องเที่ยวดี พร้อมกับมีความมั่นใจในระบบสาธารณสุขที่ดีพอ”
ทั้งนี้ เรื่องการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามากักตัว ได้เริ่มแจ้งเรื่องเข้าจังหวัดในสัปดาห์ที่ผ่านมา และทางจังหวัดจะเสนอต่อไปยังภาครัฐต่อไป โดยมีการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 หมื่นคนต่อวัน สำรองเตียงผู้ติดเชื้อไว้แล้ว 50 เตียง (เข้าขั้น ICU) น่าจะมีความคืบหน้าในเดือนตุลาคมนี้ และคาดการณ์ว่ารายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของภูเก็ตในปีนี้จะอยู่ที่ 80,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโปรโมชั่น “ภูเก็ต…เด็ดทั้งเกาะ” มีโรงแรมและรีสอร์ตเข้าร่วมจำนวนมาก ตั้งแต่ระดับ 5 ดาว-3 ดาว มีแพ็กเกจให้นักท่องเที่ยวได้เลือกมากมาย เช่น Ibis Styles Hotel Phuket City เริ่มต้นเพียงห้องละ 800 บาทต่อคืน, Novotel Hotel & Resorts Phuket City Prokeethra เริ่มต้นเพียงห้องละ 1,800 บาทต่อคืน, Glam Habitet Hotel เริ่มต้นเพียงห้องละ 2,700 บาทต่อคืน พิเศษจอง 2 คืน ฟรี 1 คืน, The Nature Phuket เริ่มต้นเพียงห้องละ 1,100 บาทต่อคืน, Trisara เริ่มต้นเพียงห้องละ 17,805 บาทต่อคืน, โรงแรมภูเก็ต แมริออท รีสอร์ทแอนด์สปา เมอร์ลินบีช เริ่มต้นเพียงห้องละ 2,499 บาทต่อคืน, Kata Group Resorts เริ่มต้นเพียงห้องละ 2,199 บาทต่อคืน, Deevana Patong Resort & Spa เริ่มต้นเพียงห้องละ 799 บาทต่อคืน, อาซ์ม๊ารีสอร์ทแอนด์สปา หาดป่าตอง เริ่มต้นเพียงห้องละ 1,000 บาทต่อคืน
บริษัท นิกรมารีน ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะจัดโปรแกรมท่องเที่ยวแบบครบเซต ได้แก่ โปรแกรมที่พัก 3 วัน 2 คืน พร้อมทริปดำน้ำดูปะการัง ตามด้วยรถรับส่งจากที่พักในราคา 2,490-2,690 บาท/ท่าน,โปรแกรมทัวร์เต็มวัน ล่องเรือมอเตอร์ยอชต์เที่ยวฮังกาบีชด้วยราคาหลักร้อยตั้งแต่ 199-999 บาทต่อคน หรือเหมาเรือเร็วสำหรับลูกค้าแบบกลุ่มราคาตั้งแต่ 5,500-30,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมตกปลาด้วย เป็นต้น โดยโรงแรมที่พักส่วนใหญ่จะมีโปรโมชั่นห้องพักพ่วงมากับฟรีอาหารเช้า เครื่องดื่ม อวดโฉมโลเกชั่นและบริการอื่น ๆ อีกมากมาย
อย่างไรก็ตาม หากใครจองไม่ทันในงาน สามารถติดตามความเด็ดของภูเก็ตได้ทางเพจ : Phuket Tourist Association โดยโปรโมชั่นต่าง ๆ เปิดให้จองตั้งแต่วันนี้ถึงเดือนกันยายน2563 แต่สามารถเลือกไปพักได้ช่วงปลายปี 2563 หรือบางแห่งยาวถึงเดือนพฤศจิกายน 2564 แล้วแต่โปรโมชั่นของแต่ละโรงแรมที่จัดไว้ น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/local-economy/news-501492
