Fri. Mar 29th, 2024
ปั้นแพลตฟอร์ม “TAGTHAI” สู้ยักษ์ OTA กินรวบเที่ยวไทย

ปั้นแพลตฟอร์ม “TAGTHAI” สู้ยักษ์ OTA กินรวบเที่ยวไทย

“กลินท์ สารสิน” บูมแพลตฟอร์ม “TAGTHAI” ศูนย์รวมข้อมูลเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยว ให้จองห้องพัก โรงแรม ซื้อ-ขายสินค้า-บันเทิงครบวงจร ดันขึ้นแท่นโอทีเอไทยครบเครื่องรายแรก

นาย กลินท์ สารสิน ในฐานะประธานคณะทำงานโครงการ Digital Tourism Platform หนึ่งในโครงการของคณะทำงานส่งเสริมการท่องเที่ยวและไมซ์ (D3) เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะทำงานได้เร่งขับเคลื่อนแพลตฟอร์มออนไลน์ “TAGTHAI” หรือ “ทักทาย” สำหรับเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงข้อมูลด้านเศรษฐกิจ สินค้า และบริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นช่องทางออนไลน์ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันและเข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้อีกด้วย

ดันขึ้นแท่นโอทีเอไทยครบวงจร

นายกลินท์กล่าวว่า แพลตฟอร์มดังกล่าวนี้จะเป็นออนไลน์แทรเวลเอเย่นต์ (online travel agent) หรือโอทีเอ ที่เป็นตัวแทนของประเทศไทยอย่างแท้จริง ซึ่งมีแผนจัดทำเป็น 3 ภาษา ประกอบด้วย ไทย อังกฤษ และจีน โดยเนื้อหาสาระจะประกอบด้วยข้อมูลเรื่องราวของเศรษฐกิจไทย ข้อมูลด้านการท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ รวมถึงสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่นักท่องเที่ยวจะได้รับในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงนักท่องเที่ยวแล้ว ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องยังสามารถนำข้อมูลทั้งหมดไปวางแผนและพัฒนาด้านการท่องเที่ยวได้อีกด้วย

“โครงการนี้เราได้เซ็นเอ็มโอยูร่วมกับภาครัฐและเอกชนรวม 49 องค์กรไปแล้ว เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อช่วยกันผลักดันให้เกิดความร่วมมือและสนับสนุนข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยวที่สมบูรณ์และครบวงจรที่สุด” นายกลินท์กล่าวและว่า ที่สำคัญ แพลตฟอร์มนี้นักท่องเที่ยวสามารถทำการจองที่พัก โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงซื้อขายบัตรเข้าชมการแสดงโชว์ สวนสนุก และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของไทย และสามารถชำระค่าสินค้าบริการผ่านธนาคารของไทยได้แบบเบ็ดเสร็จ เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มออนไลน์โอทีเอข้ามชาติต่าง ๆ

ชูจุดขาย “มาตรฐานสินค้า”

โดยจุดขายสำคัญที่จะช่วยดึงให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว คือ มาตรฐานของสินค้าและบริการที่นำมาซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าวนี้ ต้องได้รับการคัดเลือกและรับรองมาตรฐานจากองค์กรที่เกี่ยวข้องมาแล้วทั้งสิ้น อาทิ ในส่วนของโรงแรม ที่พัก จะมีสมาคมโรงแรมไทยเป็นผู้คัดสรรและรับรองมาตรฐาน ส่วนแพ็กเกจทัวร์ และสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว จะมีสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือแอตต้า เป็นผู้ดูแล สินค้าในกลุ่มอาหารและผลิตภัณฑ์อาหาร จะมีสมาคมภัตตาคารไทยเป็นผู้ดูแล หรือสวนสนุก ก็จะมีสมาคมสวนสนุกฯเป็นผู้ดูแล เป็นต้น

ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวจะการันตีได้ว่าผู้ซื้อสินค้าและบริการได้สินค้าที่มีมาตรฐานอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ผู้ที่เข้าแพลตฟอร์มนี้ยังจะได้รับข้อมูลที่เป็นอินไซด์ของประเทศไทยครบในทุกมุมอีกด้วย

เพิ่มทางเลือก-แก้เงินไหลออก

“เราได้แต่งตั้งให้ บริษัท ไทย ดิจิทัล แพลตฟอร์ม วิสาหกิจเพื่อสังคม เป็นผู้บริหารและดูแล แต่ให้นโยบายว่า แพลตฟอร์มนี้เราจะคิดค่าคอมมิสชั่นจากผู้ประกอบการที่ประมาณ 10% เพื่อให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขายสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ และไม่อยากเสียค่าคอมมิสชั่นให้กับผู้ประกอบการโอทีเอข้ามชาติ ที่คิดในสัดส่วนที่ราว 20-35%” นายกลินท์กล่าว

นายกลินท์กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับราคาซื้อขายสินค้าท่องเที่ยวต่าง ๆ นั้นอาจไม่ได้ต่างจากแพลตฟอร์มของโอทีเอข้ามชาติมากนัก เนื่องจากต้องการให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทยมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการในสัดส่วนที่เพิ่มมากกว่าการขายบนแพลตฟอร์มของโอทีเอข้ามชาติ อีกทั้งยังเป็นการลดการพึ่งพาโอทีเอข้ามชาติอีกทางหนึ่ง ที่สำคัญ ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาโอทีเอข้ามชาติโกยเงินจากภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยออกไปนอกประเทศอีกด้วย ทั้งนี้ คาดว่าน่าจะเปิดทำการซื้อขายได้จริงในช่วงประมาณเดือนมิถุนายนนี้

เอกชนท่องเที่ยวเด้งรับ

ด้านนายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า แพลตฟอร์มดังกล่าวนี้ตั้งใจออกมาเพื่อให้เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ประกอบการคนไทย ให้มีช่องทางซื้อขายสินค้าท่องเที่ยวออนไลน์ที่ไม่อยากจ่ายค่าคอมมิสชั่นในสัดส่วน 20-30% ให้กับโอทีเอต่างชาติเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งทาง สทท.ได้ขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศให้การสนับสนุนและร่วมมือกันผลักดันให้เกิดขึ้นเช่นกัน

สอดรับกับ นางพรทิพย์ หิรัญเกตุ รองนายกสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA) ที่กล่าวว่า นับเป็นนิมิตหมายอันดีของไทยที่จะมีแพลตฟอร์มรวบรวมบริการทางการท่องเที่ยวเป็นของตนเอง เพราะที่ผ่านมาแพลตฟอร์มเพื่อจองกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวมักเป็นของต่างชาติ ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวจำนวนมากไม่ได้เข้าสู่ประเทศ แต่แพลตฟอร์มนี้จะทำให้สามารถรักษารายได้จากการท่องเที่ยวไว้ภายในประเทศได้มากขึ้น พร้อมทั้งช่วยเพิ่มกำไรให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวด้วย

อย่างไรก็ตาม การที่จะประสบความสำเร็จและแข่งขันในตลาดได้นั้น ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจะต้องสนับสนุนด้วยการให้ราคาที่ดี และคุณภาพสินค้าบริการที่ดี แตกต่างจากที่อื่น อาทิ สมาชิกผู้ประกอบการทัวร์ในสมาคมเองก็จะต้องออกแบบโปรแกรมท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่ไม่ซ้ำกับของเดิม เพื่อให้แพลตฟอร์มนี้พิเศษมากกว่า OTA เจ้าอื่น ๆ ในตลาด

ฝันปลดล็อกค่าคอมมิสชั่น

เช่นเดียวกับ นางศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย ที่กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจะช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนค่าคอมมิสชั่นที่ต้องเสียให้กับโอทีเอต่างชาติจำนวนมหาศาล เนื่องจากแพลตฟอร์มนี้จะกำหนดค่าคอมมิสชั่นจากผู้ประกอบการน้อยกว่า ประมาณ 10-15% สำหรับธุรกิจโรงแรม นอกจากนั้นจะยังช่วยให้รายได้ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมาถึงคนไทยและผู้ประกอบการไทยโดยตรง ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวหมุนเวียนอยู่ในประเทศ เพื่อประโยชน์ของคนในประเทศอีกด้วย

ด้านวุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ นายกสมาคมสวนสนุกและสวนพักผ่อนหย่อนใจ กล่าวว่า แพลตฟอร์ม TAGTHAI จะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนมากที่สุดอีกครั้งหนึ่งของวงการท่องเที่ยว และเชื่อว่าจะช่วยยกระดับผู้ประกอบการไทยให้สามารถยืนอยู่ในการแข่งขันของธุรกิจท่องเที่ยวระดับโลก และมีประโยชน์ต่อทั้งผู้ประกอบการท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

นอกจากนั้น ยังทำหน้าที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวไทยอย่างละเอียดทุกมุมมอง น่าเชื่อถือ และเป็นของรัฐ ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยววางใจและรู้สึกถึงความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน สำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยวเองก็จ่ายค่าคอมมิสชั่นในราคาที่ยุติธรรมด้วย ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการธุรกิจสวนสนุกได้เริ่มเล็งเห็นความสำคัญและเข้ามาสอบถามบ้างแล้ว


ขอบคุณข้อมูลจาก :www.prachachat.net วันที่ 9 ก.พ. 62
www.prachachat.net/tourism/news-288377

Leave a Reply

Or

Your email address will not be published. Required fields are marked *