Thu. Apr 25th, 2024
ทะเล

“มาเลย์-สิงคโปร์” งดมาหาดใหญ่-พัทลุง ยกเลิกจองถึง”สงกรานต์”จี้ปลดล็อกบัสวิ่งข้ามแดน

“โควิด-19” ทำพิษ “หาดใหญ่-พัทลุง” นักท่องเที่ยวชาวมาเลยเซีย-สิงคโปร์ วูบ ยกเลิกจองทัวร์เกลี้ยง นักท่องเที่ยวหายไป 70% คาดต่อเนื่องถึง “เทศกาลสงกรานต์” เหตุปกติจองล่วงหน้ามาเที่ยวสงกรานต์กันตั้งแต่ ก.พ.แล้วไม่ต่ำกว่า 50% แต่ถึงขณะนี้ยังเงียบสนิท ธุรกิจท่องเที่ยวใต้รวมส่งหนังสือด่วน รมว.กระทรวงการท่องเที่ยว “ปลดล็อกรถบัสมาเลเซีย” หลัง 119 บริษัททัวร์ผนึกนำนักท่องเที่ยวมาเลย์-สิคโปร์ 3 หมื่นคนวิ่งเข้าไทย ร่วม “งานแห่ผ้าห่มพระธาตุ” จ.นครศรีธรรมราช 1 มี.ค.-30 เม.ย.นี้หวังเงินสะพัด 100 ล้านบาท

นายจรูญ แก้ววจีทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หาดทองการท่องเที่ยว จำกัด เจ้าของโรงแรมหาดทองรีสอร์ท จ.พัทลุง และที่ปรึกษาสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์โควิด-19 จากประเทศจีน ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยว จ.สงขลา และจ.พัทลุง โดยเฉพาะอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับผลกระทบมาก โดยยอดนักท่องเที่ยวที่สั่งจองยกเลิก ประมาณ 80% ส่วนที่เหลือ 20% เนื่องจากชำระเต็มยอดเงินไว้แล้ว ส่วนที่จ.พัทลุง นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่จองทัวร์ไว้ในเดือนกุมภาพันธ์ ไปจนถึงกลางปี 2563 ได้ยกเลิกการจองทั้งหมด

“เฉพาะในกลุ่มของบริษัท หาดทองฯมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียประมาณ 200 คนยกเลิกการจองไป หากคิดเป็นวงเงินที่หายไปต่อคนต่อวัน มีค่าใช้จ่าย 5,000 บาท/คน/วัน รวม 200 คนประมาณ 1 ล้านบาท ยังไม่นับรวมถึง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และคาดว่ายังคงมีทยอยยกเลิกกันต่อเนื่องอีก เพราะจากการเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ ให้เดินทางมาท่องเที่ยวในไทย ต่างตอบปฏิเสธ และเก็บตัวอยู่ภายในบ้าน แม้แต่ท่องเที่ยวภายในประเทศเองยังไม่อยากเดิน”

วอนปลดล็อกบัสมาเลย์เข้าไทย

นายจรูญกล่าวต่อไปว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 63 ทางกลุ่มได้ทำหนังสือถึงนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอให้ยกเลิกประกาศจังหวัดสงขลา ลว.ลงวันที่ 25 สิงหาคม 2557 เรื่องรถโดยสารที่จดทะเบียนต่างประเทศให้เข้ามาใน จ.สงขลาได้ ก่อนมีงานแห่ผ้าห่มพระธาตุ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 มีนาคมถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 เนื่องจากทางสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา ได้ประสานกับบริษัทผู้ประกอบการนำเที่ยวหาดใหญ่ จ.สงขลา 15 บริษัททัวร์ และบริษัทผู้ประกอบการนำเที่ยวของประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ประมาณ 104 บริษัท คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาร่วมงาน 20,000-30,000 คน จะทำให้มีเงินหมุนเวียน 100 ล้านบาท

สงขลาดิ่งตรุษจีน-สงกรานต์

นายทรงชัย มุ่งประสิทธิชัย นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา เจ้าของ หจก.นิวเอเชียทัวร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า สงขลาประสบภาวะซบเซาต่อเนื่องมาตั้งแต่เทศกาลตรุษจีนจนถึงขณะนี้ ยอดนักท่องเที่ยวลดลงไปประมาณ 70% และมีทิศทางต่อเนื่องไปถึงเทศกาลสงกรานต์ในเดือนเมษายน 2563 เนื่องจากปกติในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ จะมียอดจองเพื่อมาท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์แล้วไม่ต่ำกว่า 50% แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ปรากฏยอดจองเข้ามา ทั้งนี้ในอดีตสงกรานต์ถือเป็นเทศกาลยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และเคยทำรายได้เข้าจังหวัดกว่า 200-300 ล้านบาท ดังนั้นภาคเอกชน จ.พัทลุง นครศรีธรรมราช และตรังได้ร่วมกันหาแนวทางการฟื้นฟูธุรกิจการท่องเที่ยว ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ เพื่อจูงใจให้เข้ามา โดยขอให้มีการปลดล็อกให้รถบัสของประเทศมาเลเซียวิ่งเข้ามาในประเทศไทยได้

“หลายปีก่อน ช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน มีชาวมาเลเซียเข้ามาร่วมทำบุญแห่ผ้าห่มพระธาตุ ไม่ต่ำกว่า 30,000 คน ตั้งแต่ปี 2557 มีการห้ามรถที่จดทะเบียนต่างประเทศเดินทางเข้ามา นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้หดหายไป 70-80%”

นายวิทยา แซ่ลิ่ม ผู้ประกอบการนำเที่ยว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อดีตผู้ก่อตั้งสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19)ได้ส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจนำเที่ยวในหาดใหญ่ โดยเมื่อวันที่ 12ก.พ.ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ซึ่งเป็นพนักงานบริษัท ประมาณ 100 คน ได้จองโรงแรมผ่านทางอินเทอร์เน็ตไว้ ประมาณ 3 วัน เพื่อท่องเที่ยวใน จ.สงขลา และจังหวัดใกล้เคียง โดยผู้ประกอบการในกลุ่มตนจะเป็นผู้ให้บริการอำนวยความสะดวกทั้ง 3 วัน ได้ยกเลิกการเดินทางมายัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

จีนยกเลิกเที่ยวตรัง 100%

นายบรรจง นฤพรเมธี ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดตรัง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ภาพรวมการท่องเที่ยวจังหวัดตรังค่อนข้างซบเซา เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาลดลงไปกว่า 30% โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนหายไปเกือบ100% ส่วนนักท่องเที่ยวชาติอื่นลดลงไปด้วย แม้จะมีนักท่องเที่ยวกลุ่มสแกนดิเนเวีย ยุโรป แต่ไม่คึกคัก

ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยลดลงไปมาก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ยิ่งประสบปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ยิ่งซ้ำเติมการท่องเที่ยวให้ทรุดลงไปอย่างหนัก ดังนั้น ต้องมีการปรับกลยุทธ์ใหม่รับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทั้งควบคุมค่าใช้จ่าย การลงทุนแทบจะไม่มีเลย ภาครัฐต้องช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เช่นจัดประชุมสัมมนา ศึกษาดูงานให้ถี่ขึ้น แต่น่าจะมีปัญหาเรื่องงบประมาณยังไม่ผ่านสภา ทั้งนี้หากการแพร่ระบาดไวรัสไม่ยืดเยื้อจะส่งผลกระทบในระยะสั้น แต่หากยืดเยื้อต้องเตรียมรับมือกัน และทำใจไว้ล่วงหน้า

นายณัฐนนท์ โพธิเมธานนท์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนและการเกษตรจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนเองเดินทางไปเปิดตลาดท่องเที่ยวประเทศจีนมาหลายแห่ง โดยเฉพาะล่าสุดที่เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ที่ได้รับการตอบรับจากเอเยนซี่นำเที่ยวจากจีนเป็นอย่างดี และมีการนำนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวจังหวัดตรังแล้วหลายกลุ่ม และมีโปรแกรมอีกอย่างน้อยนับสิบโปรแกรมที่นักท่องเที่ยวจะเข้ามาเที่ยวจังหวัดตรังในปีนี้ โดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่น

“แต่หลังจากเกิดการระบาดของไวรัสโคโรนา มีการยกเลิกโปรแกรมทั้งหมดโดยปริยาย จึงทำให้จังหวัดตรังเสียโอกาสในส่วนนี้เป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงต้องรีบหาทางสร้างความเชื่อมั่นว่าจังหวัดตรังปลอดจากเชื้อไวรัสโคโรนา เพราะจังหวัดตรังถือเป็นเมืองที่มีความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ และได้รับการจัดอันดับว่าเป็นเมืองที่ที่มีอากาศบริษัทเป็นอันดับ 5 ของอาเซียน ดังนั้นจุดนี้น่าจะใช้มาเป็นจุดขายในการกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดตรังได้ ซึ่งทุกภาคส่วนจะต้องช่วยกันอย่างเต็มที่” นายณัฐนนท์ กล่าว

ผู้ว่าฯชูตรัง 1 ใน 5 เมืองไร้ฝุ่นเอเซีย

ด้านนายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า การส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดตรัง ทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกันมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับปีนี้น่ายินดีที่จังหวัดตรัง ถูกจัดอยู่ใน 5 เมืองไร้ฝุ่นในเอเชีย ที่เหมาะแก่การไปเที่ยว มีค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ไม่เกิน 50 หรือเป็นสีเขียว ซึ่งหมายถึงเป็นเมืองที่มีคุณภาพอากาศดี ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ จังหวัดตรังจึงเป็นตัวเลือกสำหรับการเลือกจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวในช่วงนี้

“จังหวัดตรัง มีนโยบายในการเดินหน้าพัฒนาเพื่อก้าวไปสู่การเป็น GREEN CITY และCLEAN CITY พร้อมขอความร่วมมือผู้ประกอบการได้ทำการเจาะตลาดตามเทรนด์ของนักท่องเที่ยว ชูจุดขายในเรื่องของสิ่งแวดล้อม เลือกใช้เทคโนโลยีและพัฒนาผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย รวมทั้งส่งเสริมการเป็นเจ้าบ้านที่ดี เพื่อสร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน เป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนได้มากขึ้น และสร้างความยั่งยืนให้การท่องเที่ยวตรัง”

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ

https://www.prachachat.net/local-economy/news-422361

Leave a Reply

Or

Your email address will not be published. Required fields are marked *