Fri. Apr 19th, 2024
กระทรวงการท่องเที่ยว

ผู้ว่าฯกทม. หารือ รมว.ท่องเที่ยว เปิดบางเขตรับนักท่องเที่ยว 1 ต.ค.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว เผยแผนเปิดประเทศ 5 จังหวัด เตรียมหารือผู้ว่าฯกรุงเทพฯ เปิดรับนักท่องเที่ยวในบางเขต วันนี้ 15.00 น.

วันที่ 15 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (14 ก.ย.) ถึงความคืบหน้าแผนการเปิดประเทศ ว่า ยืนยันว่าในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะเปิดให้มีการท่องเที่ยวใน 5 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่ ตามแผนที่เคยประกาศไว้ล่วงหน้า ส่วนจังหวัดที่เหลือจะเดินตามแผนให้เปิดให้ท่องเที่ยวได้ใน 21 จังหวัด ในวันที่ 15 ตุลาคม นี้

ล่าสุด นายพิพัฒน์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ทางช่อง MCOT HD ถึงประเด็นนี้ โดยเริ่มที่กรุงเทพมหานคร ว่า การเปิดกรุงเทพฯ รับนักท่องเที่ยว มีแนวทางคือจะเปิดเพียงบางเขต ซึ่งอาจจะเป็นเฉพาะใจกลางเมืองเท่านั้น โดยในพื้นที่ติดกับจังหวัดข้างเคียง เช่น สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปทุมธานี หรือนนทบุรี อาจจะต้องเว้นเอาไว้ก่อน เพราะกรุงเทพฯ จะฉีดวัคซีนครบ 70% ในต้นเดือนหน้า ขณะที่ปริมณฑลฉีดวัคซีนยังไม่ถึง 70%

ส่วนเขตใดกรุงเทพฯ ที่พร้อมเปิดในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ จะมีเขตใดบ้างนั้น นายพิพัฒน์ ตอบว่า วันนี้เวลา 15.00 น. จะมีการหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพ ซึ่งทางผู้ว่าฯจะเป็นคนกำหนดว่าจะเปิดกี่เขต

“แต่การเปิดพื้นที่ในกรุงเทพ ก็อย่ากังวล เพราะเราจะให้เขาโหลดแอปฯเราชนะ เมื่อเดินทางข้ามเขตสัญญาณจะดังขึ้นทันทีว่านักท่องเที่ยวรายนี้ได้เดินเดินข้ามเขตไปนอกพื้นที่” นายพิพัฒน์กล่าวและว่า นักท่องเที่ยวต้องโหลดแอปฯทุกคน หลังจากมีการทดลองกับกลุ่มนักท่องเที่ยวในภูเก็ตแซนด์บอกซ์ จนประสบความสำเร็จ จึงนำมาใช้ในกรุงเทพฯต่อ

ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวจากภูเก็ตจะเดินทางมากรุงเทพฯ ต้องกักตัวหรือไม่ นายพิพัฒน์ ตอบว่า ดีที่สุดคืออยู่ภูเก็ตแล้ว 7 วัน จึงมากรุงเทพฯ ชาวกรุงเทพฯสบายใจได้เพราะนักท่องเที่ยวเหล่านี้ได้มีการตรวจ RT-PCR ไปแล้ว 2 ครั้ง คือที่สนามบิน และในวันที่ 6 กับ 7

“กลับกันหากเข้ามาในกรุงเทพฯเป็นวันแรก ถึงสนามบินก็ต้องตรวจหาเชื้อ จากนั้นเข้าห้องพักเพื่อรอผลตรวจไม่เกิน 4-6 ชั่วโมง หากไม่ติดเชื้อจึงสามารถเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ที่กำหนดได้ ไม่ต้องกักตัว”

นายพิพัฒน์ยังกล่าวถึงการเปิดจังหวัดอื่น ๆ เช่น ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจะเปิดทั้งอำเภอหัวหิน เพราะขณะนี้ฉีดวัคซีนเกิน 70% แล้ว ส่วนเพชรบุรี จะเปิดเพียงชะอำเพียงอำเภอเดียว ไม่รวมอำเภออื่น ๆ เนื่องจากอำเภอเขาย้อยยังมีคลัสเตอร์ใหญ่มาก

ขณะที่ชลบุรี ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อยังสูงอยู่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ต้องดูว่าเกิดจากคลัสเตอร์ใดบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการติดเชื้อในโรงงาน แต่ขณะนี้ทางกระทรวงแรงงานกำลังพยายามขอความร่วมมือการทำโรงพยาบาลสนามในโรงงาน และให้พนักงานทั้งหมดกักตัว พักอยู่ในโรงพยาบาสนาม เพราะฉะนั้น อย่างเลวร้ายที่สุดคือไปเช่าโรงแรมและให้พนักงานอยู่โดยไม่ออกไปไหน ก็จะเป็นการหยุดการแพร่กระจายโรคได้

ต่อคำถามที่ว่า การเปิดประเทศรอบนี้จะมีมาตรการเหมือนจังหวัดภูเก็ตหรือไม่ คือเมื่อยอดผู้ติดเชื้อถึงจุดที่กำหนด จะหยุดการเปิดประเทศทันที นายพิพัฒน์ ระบุว่า มี อย่างในกรุงเทพฯ หากมีการติดเชื้อในพื้นที่ ถึง 200 คน ติดต่อกัน 10 วัน จะนำมาพิจารณาว่าจะทำอย่างไร และมีเงื่อนไขใดเพิ่มเติมขึ้นมา

เมื่อพิธีกรถามว่า หากรับนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วไม่ปล่อยให้เดินทางออกนอกเขต นักท่องเที่ยวจะมาหรือไม่ นายพิพัฒน์ตอบว่า กรุงเทพฯเป็นเมืองที่น่าสนใจที่สุดในโลกที่ต้องมาเยือน เพราะเมื่อเดือนที่แล้วได้มีการประกาศไปว่า กรุงเทพฯเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวและมาทำงานด้วย เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้คือความเย้ายวนที่จะชวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในกรุงเทพฯ

“ที่สำคัญมากกว่านั้นคือการเข้ามาในกรุงเทพมหานคร ผมคิดว่าเขาอยากจะมาดูชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยมากกว่า ว่าในขณะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 กรุงเทพฯหนักหนาสาหัสขนาดนี้ พวกเราอยู่กันอย่างไร ซึ่งวันนี้เราได้เปิดประเทศแล้ว ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่เขาน่าจะเข้ามาดู” รมว.ท่องเที่ยว กล่าว

ต่อคำถามที่ว่า จากการศึกษาของกระทรวงการท่องเที่ยว เขตใดของกรุงเทพที่น่าจะเปิดได้ นายพิพัฒน์ ตอบว่า ยังไม่ชัดเจนเรื่องเขต แต่อาจจะเป็นราชดำเนิน วัดพระแก้ว ราชดำริ เป็นใจกลางเมือง

ต่อคำถามที่ว่าหลังจากการเปิดภูเก็ตแซนด์บอกซ์และสมุยพลัสโมเดล มีการถอดบทเรียนอะไรที่จะนำมาป้องกันกรุงเทพฯบ้าง และในส่วน 7+7 ภูเก็ต มีความคืบหน้าถึงไหนแล้ว นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ได้ข้อมูลจากการเปิดภูเก็ตแซนด์บอกซ์มาแล้ว 2 เดือน สิ่งที่นักท่องเที่ยวเรียกร้องมีเยอะมาก โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโควิดในภูเก็ตที่เกิน 200 คน จึงมีการยกระดับว่าสามารถกินอาหารได้ แต่ไม่สามารถเดินได้ในห้องอาหาร

“เพราะบางชาติ การกินอาหารกับการดื่มเป็นวิถีชีวิต จึงโดนหาว่าหลอกนักท่องเที่ยวมา ไม่ให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมีการใช้กฎเดียวกัน แต่ตอนนี้ นายกฯ ได้มีการให้กระทรวงมหาดไทยทำแผนที่อีกแบบออกมา เป็นแผนที่ลงสีระดับอำเภอ หากเขตใดเป็นสีขาวหรือเขียวสามารถดื่มได้ เพราะหากเป็นสีระดับจังหวัด จะไม่ยุติรรมต่อชาวบ้านทั่วไป คิดว่าจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้”

เมื่อพิธีกรถามย้ำว่า นาทีสุดท้าย ศบค. จะไม่มีมติใดที่ออกมาเปลี่ยนแปลงแผนการเปิดประเทศนี้ ใช่หรือไม่  นายพิพัฒน์ ยืนยันว่า คงไม่มี เพราะเมื่อวานได้คุยกันแล้ว จะเดินหน้าตามแผนต่อไป

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/general/news-761480

Leave a Reply

Or

Your email address will not be published. Required fields are marked *