Fri. Mar 29th, 2024
ปีนัง

ปีนัง โหมโปรโมตท่องเที่ยว บูม “7สิ่งมหัศจรรย์โลก” รับเปิดประเทศ

“ปีนัง” ทุ่มโปรโมตการท่องเที่ยวรับเปิดประเทศ เผยหลังวิกฤตโควิด-19 พฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยน เทรนด์ individual tourism มาแรง ผนึกเคทีซี-พันธมิตรกลุ่มเอเย่นต์ทัวร์ สายการบินเปิดตัว “7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก” ย้ำแลนด์มาร์กท่องเที่ยวระดับโลก ตอบโจทย์ความต้องการของนักเดินทางทั่วโลก ตามวิสัยทัศน์ใหม่ “ปีนัง 2030”

นายโยว ซุน ฮิน มนตรีแห่งรัฐปีนังด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย เปิดเผยว่า หลังวิกฤตโควิด-19 รูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวได้เปลี่ยนไปเป็น individual tourism หรือเน้นความเป็นส่วนตัว มองหาสิ่งที่ตัวเองต้องการและให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยและความรับผิดชอบมากขึ้น

ชู 4 กลยุทธ์รับเปิดประเทศ

การท่องเที่ยวปีนังจึปรับกลยุทธ์ใน 4 ประเด็นหลักประกอบด้วย 1.ปรับวิสัยทัศน์หรือแนวคิดใหม่เพื่อก้าวสู่ smart state ทำให้การท่องเที่ยวเป็นเสมือนบ้านหรือครอบครัวที่มีความหลากหลาย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มเป้าหมาย และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งกลุ่มครอบครัว กลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มฮันนีมูน กลุ่มเดินทางเพื่อสุขภาพ กลุ่มแบล็กแพ็ก ฯลฯ

โดยวางเป้าหมายปีนังในปี 2030 ว่าปีนังจะเป็นเสมือนครอบครัวที่พร้อมต้อนรับทุกคน โดยยังยึดถือความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และนำเสนอการท่องเที่ยวที่ทั้งเป็นส่วนตัวและปลอดภัย

2.ปลดล็อกมาตรการการเดินทางเข้าประเทศ โดยยกเว้นข้อบังคับต่างๆ เช่น นักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่บริเวณนอกอาคาร ไม่ต้องขอวีซ่า ไม่ต้องตรวจ PCR ทั้งนี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกในการเดินทาง

3.มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว เตรียมแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายด้านวัฒนธรรมตามความต้องการของแต่ละกลุ่มนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความรู้สึกประทับใจ

และ 4.ร่วมกับพันธมิตรโปรโมตการท่องเที่ยว อาทิ บัตรเคทีซี, สายการบิน, บริษัทนำเที่ยว ฯลฯ เพื่อนำเสนอแพ็กเกจและโปรโมชั่นต่าง ๆ ให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทย

เปิดตัว 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

ขณะที่นายอุย ชอค เยียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการท่องเที่ยวปีนัง กล่าวว่า จากพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปในช่วงวิกฤตโควิด โดยเน้นความเป็นส่วนตัวและพยายามค้นหาเป้าหมายในชีวิตดังกล่าว ทำให้การท่องเที่ยวปีนังหันมาให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเข้าใจความต้องการของตัวเองมากขึ้นผ่านความท้าทายที่จะช่วยก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง โดยนำเสนอ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ออกแบบมาให้เข้าถึงได้ง่าย ปลอดภัย สนุกสนาน กับแคมเปญ “เปิดโลกปีนังกับสิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7” ประกอบด้วย

1.Escape Penang สไลเดอร์น้ำกลางแจ้งที่ยาวที่สุดในโลก ได้รับการบันทึกโดย Guinness World Records มีท่อน้ำสไลด์ที่ยาวถึง 1,111 เมตร

2.Entopia by Penang Butterfly Farm เขตรักษาพันธุ์ผีเสื้อและแมลงเขตร้อนแห่งแรกของโลก แหล่งรวมสายพันธุ์ผีเสื้อเขตร้อนที่บินอย่างเป็นอิสระมากกว่า 15,000 ตัว

3.The Habitat Penang Hill สะพานเชือกแขวนที่สูงที่สุดในโลก รองรับด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำที่ทำให้สะพานความยาว 230 เมตรท่ามกลางป่าฝนอายุ 130 ล้านปีนี้มีความปลอดภัยขั้นสูงสุด

4. Tech Dome Penang สไลด์เดอร์แนวตั้งแบบลอยตัวแห่งแรกของโลก จากศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่องแรงและการเคลื่อนไหว

5.The Gravityz กิจกรรมโหนสลิงที่สูงที่สุดในโลก จากชั้นที่ 65 ของตึก KOMTAR ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของปีนัง

6. The TOP’s Rainbow Skywalk ทางเดินลอยฟ้าแบบโค้งแห่งแรกของโลก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 816 ฟุต และ

7.Penang Hill เส้นทางรถรางผ่านอุโมงค์ที่ชันที่สุดในโลก เพื่อชื่นชมธรรมชาติ

ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม

นายโยว ซุน ฮิน กล่าวด้วยว่า ปีนังคือความหลากหลายที่สามารถตอบโจทย์นักท่องเที่ยวได้ทุกกลุ่มเป้าหมายจากทั่วโลก รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทย และเชื่อมั่นว่าการท่องเที่ยวปีนังจะทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ จากการเดินทางท่องเที่ยวอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความท้าทายสูง เหมาะสนำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการออกเดินทางเพื่อค้นหาความหายของชีวิต รวมถึงตระหนักถึงคุณค่าของชีวิต

ทุกส่วนพร้อมรับนักท่องเที่ยว

นายอุย ชอค เยียน กล่าวเสริมว่า นอกจากโปรดักต์ท่องเที่ยว 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกดังกล่าวแล้วปีนังยังเตรียมความพร้อมด้านอื่น ๆ เช่น คมนาคมขนส่ง ทั้งทางอากาศ ทางบก โรงแรม-ที่พัก ร้านอาหาร ฯลฯ รวมถึงระบบด้านสาธารณสุข เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่จะมาเยือน

“ปีนังเป็นแหล่งรวมมรดกทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตที่หลากหลาย อาหารจานเด็ด รวมถึงศิลปะบนกำแพง ที่พร้อมให้นักท่องเที่ยวมาเยือนและรับประสบการณ์ใหม่ ๆ” นายอุย ชอค เยียน กล่าว

และว่า ในปี 2562 ก่อนวิกฤตโควิด-19 ปีนังมีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งตลาดต่างชาติและภายในประเทศรวม 8.3 ล้านคน (เฉพาะเดินทางโดยเครื่องบิน) โดยในส่วนของตลาดคนไทยนั้นเป็นกลุ่มที่ติดอันดับท็อป 10 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าปีนังสูงสุด และเชื่อมั่นว่าหลังจากเปิดตัวแคมเปญ “เปิดโลกปีนังกับสิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7” ปีนังจะได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวชาวไทยเพิ่มขึ้น และประเทศไทยจะยังคงเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญของปีนังต่อไป

“ปีนัง” เดสติเนชั่นของคนไทย

ด้านนางสาวเจนจิต ลัดพลี ผู้อำนวยการ-การตลาดเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ “เคทีซี” กล่าวว่า จากการที่ประเทศไทยเริ่มเปิดประเทศให้ประชาชนสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้เป็นปกติตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา สัดส่วนการใช้จ่ายของสมาชิกผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดการเดินทางท่องเที่ยวมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เคทีซีได้เล็งเห็นถึงพฤติกรรมของนักเดินทางที่เปลี่ยนแปลงไป ได้แก่ ความสนใจที่จะใช้บริการกับบริษัทนำเที่ยวมากขึ้น พร้อมที่จะเสียค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อแลกกับความสะดวกสบาย รวมถึงความสนใจการท่องเที่ยวแบบวิถีชุมชนและการท่องเที่ยวแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นกระแสที่มาแรง

สำหรับปีนังนั้นถือเป็นจุดหมายที่มีความน่าสนใจและตอบโจทย์ตามความต้องการของนักท่องเที่ยว เพราะขั้นตอนการเดินทางสะดวกสบาย ไม่ต้องทำวีซ่าและมีไฟลต์บินตรงจากกรุงเทพฯ สู่ปีนัง อีกทั้งเมื่อปีนังได้เปิดตัวแคมเปญ “เปิดโลกปีนังกับสิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7” ก็จะยิ่งเสริมให้ปีนังเป็นเดสติเนชั่นสำหรับคนไทยมากยิ่งขึ้น

“เราตระหนักถึงการสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้คนไทยและสมาชิกกว่า 3 ล้านคนของบัตรเคทีซีได้รับคอนเทนต์ที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งใส่กิจกรรมการตลาดเข้าไปช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางอย่างต่อเนื่อง” นางสาวเจนจิตกล่าว

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/tourism/news-994235

Leave a Reply

Or

Your email address will not be published. Required fields are marked *