Thu. Apr 25th, 2024
“ญี่ปุ่น” ดึงไทยลงทุน ผุดโรงแรมบูมท่องเที่ยว

“ญี่ปุ่น” ดึงไทยลงทุน ผุดโรงแรมบูมท่องเที่ยว

“ญี่ปุ่น” มีเป้าหมายระยะยาวต้องการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน ภายในปี 2020 และ 60 ล้านคน ในปี 2030 จากปัจจุบันยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 24 ล้านคน

ขณะที่นายกรัฐมนตรี “ชินโสะ อาเบะ” ได้ประกาศนโยบายสำคัญเพื่อการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่น ด้วยการเร่งโปรโมต 3 ด้านหลัก ได้แก่ ส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI), เพิ่มการส่งออกสินค้าเกษตรของญี่ปุ่น และการส่งเสริมการท่องเที่ยว

งานสัมมนา Invest Japan Seminar 2019 ซึ่งจัดโดยเจโทร กรุงเทพฯ, กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) นายฮิโรกิ มิทซึมาตะ ประธานเจโทร กรุงเทพฯ กล่าวว่า การส่งเสริมการท่องเที่ยวถือเป็นภารกิจสำคัญมากสำหรับญี่ปุ่น

ข้อมูลของสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติญี่ปุ่น (JNTO) ชี้ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางไปญี่ปุ่น ในปีที่ผ่านมาสูงถึง 1.13 ล้านคน เพิ่มขึ้น 14.7% จากปีก่อนหน้า การเปิดกว้างด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนไทย

“ทาเคชิ คิทามูระ” ผู้อำนวยการ บริษัท Japan Hotel Appraisal ฉายภาพให้เห็นถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวในภาพรวมของญี่ปุ่นขณะนี้ว่า มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวญี่ปุ่นเองมากถึง 60% ขณะที่เทรนด์การเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่นิยมเดินทางในวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน และช่วงเวลาโกลเด้นวีกของคนญี่ปุ่นจะขึ้นอยู่กับเทศกาลหลัก ๆ เท่านั้น ดังนั้นการส่งเสริมตลาดขาเข้า (inbound) จะสามารถเติมเต็มลดความซบเซาของตลาดท่องเที่ยวในญี่ปุ่นในช่วงเวลาอื่น ๆ ได้

รัฐบาลได้ยกเลิกวีซ่าให้กับหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย และกำลังพิจารณายกเลิกวีซ่าให้กับ “เวียดนาม” ทั้งยังปรับปรุงคุณภาพ และการรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวในเกือบทุกสนามบิน เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม นายทาเคชิกล่าวว่า ตลาดการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นยังมี “จุดอ่อน” ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นเกาะมากถึง 6,800 เกาะทั่วประเทศ ทำให้การท่องเที่ยวในเมืองเล็ก ๆ ที่ไม่ใช่เมืองหลักยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก ที่สำคัญ โรงแรมในญี่ปุ่นยังขาดแคลนและไม่หลากหลาย

“โรงแรมในญี่ปุ่นส่วนใหญ่เป็นระดับ 2-3 ดาวเท่านั้น โรงแรมระดับ 5 ดาวถือว่ามีจำนวนน้อยมาก อีกทั้งส่วนใหญ่ยังเป็นของนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นเกือบทั้งหมด ขณะที่เชนโรงแรมของต่างประเทศมีค่อนข้างน้อย”

นายทาเคชิกล่าวด้วยว่า ในอนาคตญี่ปุ่นเตรียมจะเป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่ค่อนข้างเยอะ เช่น จัดการประชุม G20 เป็นครั้งแรก วันที่ 28 มิ.ย.ปีนี้, การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 2020, โอซากา World Expo ในปี 2025 เป็นต้น ดังนั้นนอกจากจำนวนนักท่องเที่ยวจากประเทศเอเชียตะวันออกที่เข้ามาเยือนญี่ปุ่นมากที่สุดแล้ว ในอนาคตกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศอาเซียนและยุโรป ทั้งนี้คาดว่าจะเดินทางเข้ามาในญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น  โรงแรมนารายณ์มีแผนจะลงทุนธุรกิจโรงแรมในญี่ปุ่น และมองว่านโยบายดึงดูดการลงทุนของรัฐบาลญี่ปุ่นน่าสนใจ โดยเฉพาะการอนุญาตให้บริษัทต่างชาติถือทรัพย์สินได้ 100% และสำหรับ “ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล” ได้เข้าไปลงทุนในธุรกิจโรงแรมในญี่ปุ่นแล้ว ภายใต้ชื่อ “ดุสิต คัลเลอร์ส” ทำธุรกิจโรงแรมในกรุงโตเกียว ซึ่งถือเป็นเมืองแรกที่เครือนารายณ์ฯ ไปเปิดให้บริการโรงแรมระดับ 5 ดาว

ขณะเดียวกันรัฐบาลญี่ปุ่นต้องการส่งเสริมให้มีการขยายการลงทุนธุรกิจโรงแรมไปยังเมืองอื่นที่ไม่ใช่เมืองใหญ่อย่างโตเกียว โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนโรงแรม 80,000 ห้อง ใน 8 จังหวัดหลัก ภายใต้โครงการโปรโมต เช่น จังหวัดคานางาวะ, โอซากา, วากายามะ และจังหวัดโอกินาวา เป็นต้น

มาตรการดังกล่าวน่าจะได้รับการตอบรับจากนักธุรกิจนักลงทุนจากทั่วโลกรวมทั้งนักลงทุนในประเทศไทย


ขอบคุณข้อมูลจาก : www.prachachat.net วันที่ 2 มี.ค. 62
www.prachachat.net/world-news/news-296370

Leave a Reply

Or

Your email address will not be published. Required fields are marked *