ว่าด้วยเรื่องของ “TIP”

ใครๆ ก็อยากได้ “ทิป” โดยเฉพาะพนักงานบริการอย่างคนโรงแรม เพราะทิป ถือเป็นอีกรายได้เล็กๆ น้อยๆ ที่จะได้รับจากแขก เมื่อไหร่ก็ตามที่ทำให้แขกรู้สึกพอใจกับบริการที่ได้รับ ทีนี้ เราจะทำยังไงให้ได้ทิปเยอะๆ ได้บ้าง ไปดูกัน

ทิป คืออะไร?

ความหมายของทิป ก็คือ เงินจำนวนหนึ่งที่ผู้รับบริการมอบให้แก่ผู้ที่ทำหน้าที่ให้บริการแก่ตนเอง โดยจ่ายเพิ่มให้เป็นพิเศษนอกเหนือการจ่ายค่าสินค้า หรือบริการที่ได้รับไปแล้ว (th.jobsdb.com)

TIP ย่อมาจาก
T – To
I – Insure
P – Pleasure

รวมกันก็จะหมายถึง ทำให้มั่นใจว่าพอใจ เพราะฉะนั้น หากอยากจะได้ทิปเยอะๆ ไม่ยากเลยครับ คุณก็แค่ทำให้แขก ‘พอใจ’ ตรงตามตัวอักษรนั่นเอง

การทิปของแต่ละประเทศนั้นจะไม่เหมือนกันโดยแล้วแต่ประเทศนั้นจะรวมค่าทิปไปในบิลเรียกเก็บเงินหลังเช็คบิล หรือใช้บริการเสร็จ โดยในบิลจะระบุว่า “Service Charge” หรือ “ค่าบริการ” ไว้แล้ว ซึ่งจะกำหนดเป็นค่าร้อยละของยอดจำนวนเงินทั้งหมดที่ต้องจ่ายให้แก่บริการนั้นๆ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 5-15เปอร์เซ็นต์

สำหรับชาวยุโรป การให้ “ทิป” ถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 7-12% ของราคาที่จ่ายไป

คนโรงแรมจะได้ทิปจาก 2 รูปแบบด้วยกัน

1.จากการบริการ เช่น Bellboy ที่ไปส่งกระเป๋า หรือแม่บ้านที่มาทำความสะอาดห้อง เป็นต้น

2.จากเงินทอน เช่น การจ่ายค่าอาหาร เป็นต้น

สิ่งที่คนโรงแรมไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งก็คือการ หวังจะได้ทิปแบบออกนอกหน้า เป็นยังไงน่ะหรอครับ อย่างเช่น Bellboy ที่มาส่งกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ยอมออกไปจากห้อง หรือเงินทอนที่สามารถทอนเป็นแบงก์ใหญ่ได้ แต่ถูกทำการ แตกแบงก์ ออกมา หรือไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตามที่จงใจขี้นำให้แขกวางทิป ขอบอกเลยครับว่ามันไม่ได้ช่วยให้ดูดีเลย ตรงกันข้ามกลับทำให้แขกรู้สึกไม่ดี ไม่สมกับนิยามของคำว่า “TIP” ซะด้วยซ้ำ ถ้าแขกอยากให้ทิป ไม่ว่า Bellboy จะออกไปจากห้องแล้ว หรือจะทอนออกมาเป็นแบงก์ใหญ่ แขกก็สามารถเรียกให้มาเอาทิปได้ครับ และแขกจะรู้สึกว่าพวกเขา ‘เต็มใจให้’ มากกว่าด้วยซ้ำ

สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้คนโรงแรมได้ทิปหนักๆ จาก ‘Service Mind’ ที่แท้จริงนะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.smartfinder.asia
www.smartfinder.asia/ว่าด้วยเรื่องของ-tip/

Kanittha

https://www.thaihotelbusiness.com

See author's posts