การประชุมสมาชิกร่วมระหว่าง ATTA และ THA ครั้งที่ 19 
THA ร่วมประชุมแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 
สมาคมโรงแรมไทย ร่วมลงนาม MOU เพิ่มศักยภาพแรงงานไทย 
เช็กความพร้อมภูเก็ตแซนด์บอกซ์ สภาท่องเที่ยวฯ ผนึกกำลัง ททท.ลงพื้นที่สำรวจซัพพลายไซด์รองรับนักท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร รถนำเที่ยว เรือ พนักงานให้บริการ ส่งต่อข้อมูลให้เอเย่นต์นำไปจัดแพ็กเกจทัวร์ ททท.ยันดีเดย์ นักท่องเที่ยวกรุ๊ปแรกจากอเมริกาเข้าภูเก็ต 3 ก.ค.นี้ เผย 7 สายการบิน พร้อมเปิดบินตรงสู่ภูเก็ต เตรียมสรุปไกด์ไลน์มาตรการเข้าเมือง ร่วม ศบศ.อีกครั้ง 4 มิ.ย.นี้
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการได้ทำจดหมายยืนยันความพร้อมสำหรับการเปิดภูเก็ตอย่างเป็นทางการ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษส่งให้ทุกสมาคมท่องเที่ยว รวมถึงคู่ค้าที่เป็นเอเย่นต์ทัวร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อยืนยันความพร้อมไปแล้วเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงความพร้อมสำหรับเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่กักตัวของจังหวัดภูเก็ตตามนโยบาย “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” 1 กรกฎาคมนี้
สำรวจความพร้อมซัพพลายไซด์
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) หรือสภาท่องเที่ยว เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเปิดเมืองภูเก็ตรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่กักตัวในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ทางสภาท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทุกสาขาอาชีพในวันที่ 2 มิถุนายนนี้
“เซ็นทารา” ย้ำความมั่นใจ พร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าภูเก็ต
ทั้งนี้ เพื่ออัพเดตสถานการณ์ ทำความเข้าใจร่วมกัน และสำรวจความพร้อมในด้านซัพพลายภาคธุรกิจท่องเที่ยวในทุกเซ็กเตอร์ว่าพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวได้มากน้อยแค่ไหน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้นำเอเย่นต์ทัวร์ทำตลาดอินบาวนด์ 18 บริษัทเข้าพบผู้ว่าการ ททท. เพื่อรับฟังความเชื่อมั่นในการเปิด 1 กรกฎาคมนี้ รวมถึงรับทราบถึงแผนการฉีดวัคซีนของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเชื่อว่าจะครอบคลุม 70% และเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว
“เราต้องทำให้สิ่งที่ประกาศว่าพร้อมนั้นสามารถจับต้องได้ว่าพร้อมแค่ไหน ผู้ให้บริการด้านต่าง ๆ อาทิ โรงแรม รถตู้ รถบัส ร้านอาหาร เรือนำเที่ยว ฯลฯ รวมถึงแรงงานที่เกี่ยวข้อง ความพร้อมในการให้บริการได้จริง ๆ จำนวนเท่าไหร่” นายชำนาญกล่าว
นอกจากนี้ยังต้องกำหนดให้ชัดเจนด้วยว่ามีเส้นทางท่องเที่ยวไหนบ้างที่สามารถไปได้ เส้นทางไหนบ้างที่ไปได้แต่ต้องควบคุม (sealed route) เพื่อส่งต่อข้อมูลดังล่าวนี้ไปให้กับเอเย่นต์นำเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศนำไปจัดทำเป็นแพ็กเกจทัวร์เสนอขาย ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถบริหารจัดการให้ดีมานด์ให้สอดรับกับซัพพลายที่มีอยู่ต่อไปได้
กรุ๊ปแรกเข้าภูเก็ต 3 ก.ค.นี้
ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวยืนว่า ทุกภาคส่วนยังเดินหน้าเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดส จากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยเริ่มต้นที่จังหวัดภูเก็ตตามโมเดล “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์” โดยหลักการเปิดเมืองรูปแบบใหม่นี้จะต้องดำเนินการควบคู่กันไปใน 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย 1.แผนการฉีดวัคซีน รวมถึงแผนการบริหารความเสี่ยงหากกรณีเปิดแล้วทำให้เกิดการแพร่ระบาดอีกครั้ง 2.แผนพัฒนาเมืองรูปโฉมใหม่ และ 3.แผนการทำการตลาด
โดย ททท.จะมีบทบาทด้านการทำการตลาดเป็นหลักได้เตรียมแผนทั้งตลาดระยะใกล้และตลาดระยะไกล โดยมีเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยในช่วง 3 เดือนแรก (กรกฎาคม-กันยายน 2564) จำนวน 1.29 แสนคน
นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า ททท. สำนักงานต่างประเทศยังมีแผนส่งคณะนักท่องเที่ยว หรือจัด FAM Trip ที่เรียกว่า “ทริป (ทด) ลองของใหม่” หรือ experiment trip เพื่อทดสอบเส้นทางการท่องเที่ยวของภูเก็ต รวมถึงจัดทริปนำ Specialist Tour Operators และ Media-KOLs รวมถึงสำนักข่าว CNN ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วประมาณ 200 คน มาร่วมสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวภูเก็ตในภาพลักษณ์ใหม่ (better phuket) ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อนำเสนอว่าภูเก็ตเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปนั้นนายยุทธศักดิ์กล่าวว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่จะเดินทางเข้ามาจะเป็นนักท่องเที่ยวจากตลาดในภูมิภาคอเมริกา โดยจะเดินทางมาในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้
7 แอร์ไลน์เปิดบินตรงเข้าภูเก็ต
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวเสริมถึงแผนการขนส่งนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้าสู่ภูเก็ตว่า หลังจากที่ได้ประกาศภูเก็ตแซนด์บอกซ์ออกไป สายการบินต่าง ๆ เริ่มทบทวนแผนการให้บริการใหม่ โดยปัจจุบันมีสายการบินที่ประกาศเปิดให้บริการเส้นทางบินตรงเข้าภูเก็ตแล้วจำนวน 7 ราย ประกอบด้วย
1.การบินไทย เปิดให้บริการเที่ยวบินแฟรงก์เฟิร์ต, ซูริก, ลอนดอน, ปารีส, โซล, สิงคโปร์ และนิวเดลี (หรืออาจเปลี่ยนเป็นโตเกียว) ที่ทำการบินแบบ triangle flying pattern จากต้นทางสู่ภูเก็ต-กรุงเทพฯ จำนวน 1 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยจะเริ่มทำการบิน 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป
2.เอมิเรตย์ เปิดเส้นทางบินดูไบ-ภูเก็ต แล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จำนวน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และในเดือนกรกฎาคมนี้จะให้บริการทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน
3.สิงคโปร์แอร์ไลน์ส เปิดเส้นทางสิงคโปร์-ภูเก็ต ปกติให้บริการ 1 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จะเพิ่มเป็น 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
4.กาตาร์แอร์เวย์ส ซึ่งมีต้นทางจากยุโรปจำนวนมาก อาทิ สตอกโฮล์ม, ออสโล, วอร์ซอ, เฮลซิงกิ, ซูริก, มิวนิค, แฟรงก์เฟิร์ต, มอสโก เปิดเส้นทางโดฮา-ภูเก็ต ทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน ตั้งแต่ 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป
5.EL AL สายการบินอิสราเอล มีแผนเปิดบินเข้าภูเก็ตเป็นครั้งแรกในเส้นทางเทลอาวีฟ-ภูเก็ต ทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน ตั้งแต่ 1 กรกฎาคมนี้
6.บริติช แอร์เวย์ และ
7.แอร์ฟรานซ์ โดยทั้งบริติชแอร์เวย์และแอร์ฟรานซ์นั้นปัจจุบันให้บริการผ่านระบบโค้ดแชร์กับกาตาร์แอร์เวย์ส หากดีมานด์มากในอนาคตอาจตัดสินใจให้บริการด้วยตัวเองต่อไป
ชง ศบศ.เคาะ 4 มิ.ย.นี้
นายศิริปกรณ์กล่าวเพิ่มด้วยว่า สำหรับรายละเอียดของมาตรการเข้าเมือง รวมถึงไทม์ไลน์การเปิดเมืองของจังหวัดนำร่องอื่นอีก 9 จังหวัดนั้น ที่ผ่านมามีการขยับปรับเปลี่ยนเพื่อให้เป็นมาตรฐานสากลและสอดรับกับความมั่นใจของประชาชนในพื้นที่เมืองท่องเที่ยแต่ละแห่งทุกวัน อย่างไรก็ตาม คณะทำงานจะนำเสนอรายละเอียดทั้งหมด ทั้งเรื่องโรดแมปการเปิดเมือง แนวทางการจัดทำ sealed route และ standard operation procedure หรือ SOP สำหรับการท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัดอีกครั้งต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ จากนั้นเสนอให้ ศบค.พิจารณา และคาดว่าจะเวนอ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบได้ในวันที่ 7-11 มิ.ย.64
โดยบางจังหวัดได้ขอปรับไทม์ไลน์ในการเปิดรับนักท่องเที่ยวด้วย อาทิ พังงา-เขาหลัก เสนอขอไม่กักตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่เดือน ส.ค.นี้เป็นต้นไป กระบี่ในพื้นที่เกาะพีพี ไร่เล และเกาะไหง ขอเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้ และขอขยายไปยังพื้นที่เกาะลันตา อ่าวนาง และทับแขก ในเดือนสิงหาคม เกาะสมุย-พะงัน-เต่า (สุราษฎร์ธานี) ขอเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่กรกฎาคมนี้ หรือเชียงใหม่ ที่เสนอให้กักตัวนักท่องเที่ยวในโรงแรมเป็นเวลา 7 คืน รูปแบบพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ อ.แม่ริม อ.แม่แตง และ อ.ดอยเต่า ตั้งแต่สิงหาคมนี้เป็นต้น
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/tourism/news-682076
