Fri. Apr 19th, 2024
ททท.

ททท.ลอนดอนตั้งรับทุกรูปแบบ คาดนักท่องเที่ยวUKพร้อมเที่ยวไทยพ.ย.นี้

ททท.สำนักงานลอนดอน คาดตลาดสหราชอาณาจักรพร้อมเที่ยวไทยพฤศจิกายนนี้ เผยเตรียมแผนรับมือไว้ถึง 3 รูปแบบ หวังให้สอดรับกับทุกสถานการณ์ ตั้งแต่เร็วสุดคือเดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ตั้งเป้า4 เดือนสุดท้าย กวาดนักท่องเที่ยวUK ไม่ต่ำกว่า 7 แสนคน “กรุงเทพฯ-ภูเก็ต-สุราษฎร์ธานี-ชลบุรี-กระบี่”ยังติดท็อป 5 เดสติเนชั่นยอดนิยม

นางจิระวดี คุณทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานลอนดอน และนายคริส ลีผู้จัดการตลาดสหราชอาณาจักรการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกันเปิดเผยว่า ตลาดสหราชอาณาจักร (UK) เป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับตลาดอื่น ๆ และคาดว่านักท่องเที่ยวจากตลาดสหราชอาณาจักรจะเริ่มเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยได้ในช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้ ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวที่จะกลับมา ทาง ททท.ได้เตรียมแผนการฟื้นฟูไว้ 3 รูปแบบ เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

เตรียมแผนรับมือ 3 รูปแบบ

ประกอบด้วย รูปแบบที่ 1 ททท. เริ่มทำตลาดตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้ และเริ่มเปิดให้มีการจองในเดือนสิงหาคม ก่อนนักท่องเที่ยวจะเริ่มเดินทางในเดือนกันยายน รูปแบบที่ 2 ททท. เริ่มทำตลาดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-เดือนสิงหาคม และเริ่มเปิดให้มีการจองในเดือนกันยายน ก่อนนักท่องเที่ยวจะเริ่มเดินทางในเดือนตุลาคม และรูปแบบที่ 3 ททท.เริ่มทำตลาดตั้งแต่เดือนกันยายน และเปิดให้มีการจองในเดือนตุลาคม ก่อนนักท่องเที่ยวจะกลับมาในเดือนพฤศจิกายน

“ตอนนี้ประเทศไทยสามารถจัดการกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ดีมาก ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณที่ดีไปสู่นักท่องเที่ยวชาวสหราชอาณาจักรที่ต้องการเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย ททท.จึงอยู่ระหว่างการจับตาสถานการณ์ในไทยและสหราชอาณาจักรอย่างใกล้ชิด เพื่อจะบริหารงานการตลาดให้ดีที่สุด ให้นักท่องเที่ยวจากอังกฤษและไอร์แลนด์สามารถเดินทางกลับมาท่องเที่ยวไทยได้ภายในปีนี้ โดยตั้งเป้าว่าตั้งแต่เดือนกันยายน-ธันวาคมนี้ จะมีนักท่องเที่ยวตลาดดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 50% ของช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ที่มีจำนวนประมาณ 1.4 แสนคน หรือประมาณ 7 แสนคน”

ไตรมาส 1/63 เก็บได้ 2.2 แสนคน

ทั้งนี้ จากสถิติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาระบุว่า ในปี 2562มีจำนวนนักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักรเดินทางเข้าประเทศไทยทั้งสิ้น 994,018 คนเพิ่มขึ้น 0.73% จากปี 2561 และทำรายได้ 74,164 ล้านบาท ลดลง0.43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับในไตรมาสที่ 1 ของปี 2563 ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักรเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย 220,635 คน ลดลง 41.69% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และทำรายได้ 17,497 ล้านบาท ลดลง 43.02% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตาม การเปิดการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างไทยและสหราชอาณาจักรจำเป็นจะต้องพิจารณาประเด็นสำคัญหลายอย่าง ตั้งแต่การคลายล็อกดาวน์ของสหราชอาณาจักร การเปิดการเดินทางระหว่างประเทศ การเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวของไทยข้อกำหนดสำหรับการการันตีผู้ติดเชื้อ หรือปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจจะมีผลต่อการเปิดชายแดน อาทิ การคิดค้นวัคซีน สภาพเศรษฐกิจ การเลื่อนเปิดภาคเรียน ฯลฯ

ชี้คน UK พร้อมเที่ยวปีหน้า

ผู้อำนวยการสำนักงานลอนดอน ททท.กล่าวด้วยว่า จากการสำรวจความเห็นของนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรพบว่า จำนวนกว่า 69% มีแผนที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวระยะไกล (long hual) ในอีก 18 เดือนข้างหน้า โดยส่วนใหญ่จะออกเดินทางภายในเดือนมีนาคมปี 2564 และกลุ่มที่จะเริ่มออกเดินทางก่อนในเดือนตุลาคมนี้คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวอายุน้อย (Gen Z)เช่นเดียวกับกลุ่มลักเซอรี่และกลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่จะออกเดินทางตามมาในระยะเวลาอันใกล้ ในขณะที่กลุ่มโรแมนติกจะจองการเดินทางและที่พัก แต่เริ่มเดินทางได้ช้ากว่า

ส่วนสาเหตุที่ทำให้การตัดสินใจเดินทางล่าช้าออกไปมาจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในระหว่างการเดินทางเป็นส่วนมาก โดยมีเพียง 8% เท่านั้นที่ไม่กังวลเลย นอกจากนั้นยังต้องยอมรับว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกวางแผนการเดินทางสู่เอเชียลดลงกว่า 10% ในขณะที่เลือกการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ออสเตรเลีย และกลุ่มประเทศอินเดียนโอเชียนเพิ่มมากขึ้น

“ททท.เชื่อว่าในเดือนมิถุนายนไปจนถึงกันยายน นักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักรจะเริ่มต้นออกเดินทางในประเทศ และข้ามประเทศระยะสั้นสู่ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคยุโรป และในเดือนกันยายน-ธันวาคมจะเริ่มออกเดินทางระยะไกลสู่ภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่ยังมีแดดจัดในฤดูหนาวอย่างไทย โดยปัจจุบันหลายสายการบินที่เชื่อมต่อสหราชอาณาจักรเข้ากับประเทศไทย และพื้นที่ต่าง ๆ ของโลกเริ่มกลับมาทำการบินบางส่วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสายการบินเอทิฮัด, เตอร์กิช,เอมิเรตส์ ฯลฯ”

เตรียมจุดพลุการตลาดไตรมาส 3 นี้

นางจิระวดี กล่าวต่อไปอีกว่า แม้สหราชอาณาจักรจะเพิ่งเบร็กซิตออกจากสหภาพยุโรปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และยังมีความไม่แน่นอนเรื่องข้อตกลงทางการค้าและการผ่านแดน แต่ก็ยังไม่ส่งผลกระทบรุนแรงเท่ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เข้าสู่สหราชอาณาจักรในไตรมาสที่ 1 ก่อนจะระบาดเป็นวงกว้างจนทำให้รัฐบาลต้องประกาศล็อกดาวน์ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี ททท.จึงหวังว่าจะสามารถเริ่มทำตลาดทั้งการเสนอโปรโมชั่นและสร้างความตระหนักรู้ให้กับแบรนด์ได้ภายในไตรมาสที่ 3 ก่อนจะเข้าสู่ไตรมาสที่ 4 ซึ่งนักท่องเที่ยวจะออกเดินทางด้วยพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป

โดยที่ผ่านมานักท่องเที่ยวสหราชอาณาจักรที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทยมักเป็นกลุ่มรายได้ปานกลางที่เดินทางอย่างอิสระด้วยตนเอง มีอัตราการเดินทางมาเที่ยวซ้ำสูงถึง 73% โดยมีนักท่องเที่ยวในกลุ่มเจนวายมากที่สุด รองลงมาจึงจะเป็นเบบี้บูมเมอร์และเจนเอ็กซ์ ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางมาจากพื้นที่ลอนดอนเป็นหลัก โดยมีการเติบโตอย่างน่าสนใจของนักท่องเที่ยวจากแคมบริดเชอร์ ซึ่งมีอัตราการเติบโตกว่า 148%

สำหรับจุดหมายปลายทางยอดนิยมในไทยนั้นประกอบด้วย กรุงเทพฯ, ภูเก็ต, สุราษฎร์ธานี, ชลบุรี, กระบี่, เชียงใหม่, ประจวบคีรีขันธ์, แม่ฮ่องสอน, พังงา และตรัง และมีกิจกรรมที่ให้ความสนใจในไทยหลากหลาย อาทิ อาหารไทย ชายหาด ไนต์ไลฟ์ สปาและเวลเนสโลคอล ฯลฯ ซึ่งจะเปลี่ยนไปเป็นส่วนตัวขึ้นแน่นอนหลังจบโควิด-19 และในอนาคตการท่องเที่ยวกลุ่มลักเซอรี่ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ การท่องเที่ยวเชิงสังคมรวมถึงการสั่งสมประสบการณ์ช้า ๆ อย่างมีความหมายจะได้รับความสำคัญมากขึ้น เช่นเดียวกับที่นักท่องเที่ยวจะให้ความสำคัญกับรายการจุดหมายปลายทางที่จะต้องได้เดินทางไปสักครั้งมากขึ้น

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/tourism/news-476123

Leave a Reply

Or

Your email address will not be published. Required fields are marked *