ทุกครั้งที่มีเทศกาลประจำปีหรือวันหยุดยาว ข่าวที่มีการเสนอกันปกติก็คือข่าวอุบัติเหตุที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน หากผู้ขับขี่มีความระมัดระวังและเคารพกฎจราจรกันอย่างเคร่งครัด อุบัติเหตุก็จะเกิดน้อยลงอย่างแน่นอน
กฎหมายน่ารู้ครั้งนี้ขอนำบางประเด็นที่น่าสนใจในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งถ้าปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวน่าจะช่วยกันบรรเทาอุบัติเหตุและสามารถช่วยให้การจราจรติดขัดน้อยลงได้อีกด้วย
เรื่องแรก คือ เรื่องของการขับรถ
- รถช้าให้ชิดซ้าย โดยข้อเท็จจริงยังมีผู้ขับขี่รถอีกเป็นจำนวนมากขับขี่รถช้าแต่อยู่ช่องทางด้านขวาโดยไม่สนใจใครทั้งนั้น และไม่ทราบว่าตนเองกำลังขับขี่รถโดยผิดกฎจราจร (มาตรา 35)
- ขับรถขณะเมาสุราหรือเมาอย่างอื่น (มาตรา 43 (2))
- ขับรถบนทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันควร (มาตรา 43 (7))
- ขับรถขณะใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ เว้นแต่มีอุปกรณ์เสริมสำหรับ การสนทนาโดยที่ไม่ต้องจับโทรศัพท์ (มาตรา ๔๓ (๙))
ความผิดตาม 1) 3) หรือ 4) มีโทษปรับตั้งแต่ สี่ร้อยบาทถึงหนึ่งพันบาท
ส่วนข้อ 2) หากมีเหตุอันควรเชื่อว่าเมาแล้วขับ เจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้หยุดรถเพื่อทดสอบผู้ขับขี่ตามมาตรา ๓๒ ตรี หากผู้ขับขี่ไม่ยอมให้ทดสอบโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเมา (มาตรา 142 วรรคสี่) โทษสำหรับเมาแล้วขับ คือ จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ (มาตรา 160 ตรี)
เรื่องที่สอง คือ การจอดรถผิดกฎจราจร
พนักงานเจ้าหน้าที่มีสิทธิให้เราเคลื่อนย้าย ถ้ายังไม่เคลื่อนย้ายตามคำสั่งเจ้าหน้าที่มีสิทธิเคลื่อนย้ายให้หรือมีสิทธิล็อกล้อ โดยค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเจ้าของรถต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายค่าดูแลรักษาไม่น้อยกว่าวันละสองร้อยบาท ค่าเคลื่อนย้ายไม่น้อยกว่าคันละห้าร้อยบาท ถ้าไม่นำเงินมาจ่ายภายในสามเดือนก็ให้ขายรถนำเงินมาชำระค่าใช้จ่ายในการดูแลที่เหลือก็คืนให้เจ้าของรถไป (รายละเอียดดูมาตรา 59) ระหว่างที่พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการข้างต้นใครขัดขวางหรือ ทำลายอุปกรณ์ของพนักงานเจ้าหน้าที่ มีโทษจำคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 159)
เรื่องสุดท้าย คือ เรื่องการชำระค่าปรับตามใบสั่ง
จะพบว่ามีพวกเราหลายคนได้รับใบสั่งแล้วต้องเสียเวลาเดินทางใบยังสถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุ บางครั้งอยู่ไกลมากเสียเวลาเป็นวัน ดังนั้น จึงได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมวิธีการชำระค่าปรับที่สะดวกขึ้น คือ สามารถใช้วิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์บัตรเครดิต หรือวิธีการอื่นโดยผ่านธนาคารหรือหน่วยบริการรับชำระเงินได้ ทั้งนี้ ตามวิธีการและสถานที่ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนด
อย่างไรก็ตามกฎหมายเป็นเพียงตัวอักษรหากขาดการปฏิบัติตาม และขาดการเคร่งครัดในการบังคับใช้อย่างจริงจังก็คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวันได้