กฎหมายฉบับนี้ ได้มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2558 และมีความสำคัญกับสมาชิกสมาคมโรงแรมไทยค่อนข้างมาก จึงขอนำมาเรียนให้ท่านสมาชิกทั้งหลายได้รับทราบว่าการทำธุรกิจต่อไปนี้จะสะดวกขึ้น
สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้มีไม่มาก กล่าวคือ
- ผู้อนุญาตต้องจัดทำคู่มือสำหรับประชาชน ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วย
- หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข (ถ้ามี) ในการยื่นคำขอ
- ขั้นตอนและระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาต
- รายการเอกสารหรือหลักฐานที่ผู้ขออนุญาตจะต้องยื่นมาพร้อมคำขอ
- จะมีการกำหนดให้ยื่นคำขอผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์แทนการมายื่นคำขอด้วยตนเองก็ได้
- คู่มือสำหรับประชาชนให้ติดประกาศไว้ ณ สถานที่ที่กำหนดให้ยื่นคำขอ และเผยแพร่ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และหากประชาชนอยากได้ เจ้าหน้าที่ต้องจัดทำสำเนาให้โดยจะคิดค่าใช้จ่ายตามสมควรก็ได้
- ผู้อนุญาตต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในคู่มือ หากไม่เสร็จภายในเวลากำหนด ให้แจ้งให้ผู้ยื่นคำขอทราบเหตุแห่งความล่าช้าทุกๆ 7 วัน จนกว่าการพิจารณาจะแล้วเสร็จ ถ้าไม่แจ้ง ให้ถือว่าผู้อนุญาตกระทำการหรือละเว้นกระทำการเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น เว้นแต่จะเป็นเพราะมีเหตุสุดวิสัย
อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับนี้ก็ยังไม่ได้อำนวยความสะดวกกับคนทำโรงแรมใหญ่มากนัก เนื่องจากได้มีการยกเว้นหน่วยงานที่ไม่ถูกบังคับโดยกฎหมายฉบับนี้ คือ
- รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี
- การพิจารณาพิพากษาคดีของศาล และการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในกระบวนการพิจารณาคดี การบังคับคดี และการวางทรัพย์
- การดำเนินงานตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
- การอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- การอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการทางทหาร ด้านยุทธการ รวมทั้งตามกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมยุทธภัณฑ์และกฎหมายว่าด้วยโรงงานผลิตอาวุธของเอกชน
ดังนั้น โรงแรมขนาดใหญ่ที่ต้องทำ EIA หรือต้องทำ IEE ในกรณีโรงแรมชายทะเล ก็ยังต้องมีระยะเวลาการรอคอยเช่นเดิมครับ ในส่วนของนายทะเบียนโรงแรมทราบว่า ขณะนี้การจัดทำคู่มือเรียบร้อยแล้ว โดยมีระยะเวลาในการพิจารณาคำขอให้เสร็จภายใน 66 วัน ก็ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับคนทำธุรกิจโรงแรมครับ