วันที่ 24 สิงหาคม 2546 เป็นวันที่พืชกระท่อมได้ถูกปลดออกจากกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 5 อันมีผลให้ผู้ที่ปลูกต้นกระท่อม ดื่มน้ำกระท่อม (ที่ไม่มีสารเสพติดให้โทษอื่น) หรือ กินใบกระท่อมก็จะไม่ผิดกฎหมายอีกต่อไป
สาเหตุที่ปลดพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดให้โทษ เพราะรัฐบาลเห็นว่า พืชกระท่อมสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ โดยเฉพาะเป็นพืชที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ ที่ประชาชนสามารถจำหน่ายใบกระท่อมหรือน้ำของใบกระท่อมเพื่อสร้างรายได้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น รวมทั้งสามารถนำมาทำเป็นสินค้าส่งออกเพิ่มรายได้ให้ประเทศอีกด้วย
โดยข้อเท็จจริง พืชกระท่อมก็ยังเป็นพืชที่มีสารเสพติดอยู่ที่ใบ เมื่อนำไปผสมกับสารเสพติดอื่น ๆ ก็ย่อมมีโทษได้เช่นกัน จึงมีความจำเป็นต้องมีมาตรการกำกับดูแลในบางเรื่อง ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องออกกฎหมายมาส่งเสริมและกำกับพืชกระท่อมที่ชื่อว่า ร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. …. ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านวาระแรกของสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว กำลังพิจารณาอยู่ในวาระที่ 2 คาดว่าน่าจะเสร็จภายใน 2 – 3 สัปดาห์ และส่งต่อให้วุฒิสภากลั่นกรองอีกครั้งหนึ่ง
สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ มีดังนี้
1. คำว่า ‘พืชกระท่อม’ หมายความว่า ใบของพืชกระท่อม รวมถึงสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพที่สกัดได้จากใบของพืชกระท่อม
2. ถ้าจะเอาพืชกระท่อมไปใช้ประโยชน์ในเชิงอุตสาหกรรมต้องได้รับใบอนุญาต
3. ห้ามขายใบกระท่อม น้ำต้มใบกระท่อม แก่บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปี สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร
4. ห้ามขายใบกระท่อม น้ำต้มใบกระท่อม ในสถานศึกษา หอพัก สวนสาธารณะ สวนสัตว์ สวนสนุก และขายโดยใช้เครื่องขาย
ประเด็นสำคัญ อยู่ที่แนวคิดว่ากฎหมายฉบับนี้ควรจะควบคุมจำนวนของการปลูก เพื่อจำหน่ายประชาชนทั่วไปหรือไม่ เนื่องจากเกรงว่าหากปล่อยให้ปลูกมากไปราคาอาจจะตกต่ำจนประชาชนจะมีรายได้เสริมน้อยไป
ประการต่อมา มีคำถามว่าผู้ขายจะทราบได้อย่างไรว่าผู้ซื้อตั้งครรภ์หรือเป็นสตรีให้นมบุตร ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องนำไปคิด
ประการที่สาม ที่ถกเถียงกันอยู่ คือ เรื่องอายุของใบอนุญาตปลูกพืชกระท่อมในเชิงอุตสาหกรรม ที่กำหนดเอาไว้ 5 ปี ว่าควรกำหนดเวลาหรือไม่ เพราะหากมีผู้ปลูกพืชกระท่อมเพื่อทำอุตสาหกรรมแล้วไปขอต่อใบอนุญาต หากไม่อนุญาตให้ต่อใบอนุญาต จะทำอย่างไร ต้องตัดต้นกระท่อมทิ้งหรือไม่ ก็เป็นประเด็นที่กำลังพิจารณา
ที่จริงกฎหมายฉบับนี้ควรจะต้องออกมาให้ทันกับเวลาที่พืชกระท่อมได้ถูกปลดออกจากกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดจะมีผลบังคับใช้ คือ วันที่ 24 สิงหาคม 2564 แต่เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโควิด จึงต้องมีการชะลอการประชุมออกไปบ้าง จนกว่าโควิด-19 จะเบาบางลงไป จึงจะสามารถประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ ก็ต้องรอกันต่อไป แต่ช่วงนี้ก็สามารถปลูกพืชกระท่อมได้แล้ว
ผู้เขียน อ.สัมพันธ์ แป้นพัฒน์, Legal Advisor to the Board, Thai Hotels Association (THA)
ขอบคุณภาพโดย Shutter Stock