ปี 2019 ถือเป็นปีที่สำคัญมาก เพราะเป็นครั้งแรกในรอบ 1,000 ปีที่ภาคอุตสาหกรรมและภาคการเงินโลกเปลี่ยนแปลงพร้อมกัน ฝั่งอุตสาหกรรมมีเทคโนโลยีใหม่มาแนะนำ พร้อมพาทุกคนเดินทางสู่ ยุคบล็อกเชน (Blockchain) ขณะที่ภาคการเงินมีเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอเรนซี่ (Cryptocurrency) ส่งเข้าประกวด
“เกิดการปะทะกันระหว่างภาคอุตสาหกรรมและภาคการเงินจนสามารถเรียกได้ว่านี่คือปรากฏการณ์ ‘บิ๊กแบง’ ทางเศรษฐกิจโลก นำไปสู่การดิสรัปต์ทางธุรกิจ เทคโนโลยี และการเงินอย่างมหาศาล”
นี่คือคำบอกเล่าของ คุณสุรินทร์ ทองคำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อันดามัน บุ๊กกิ้ง จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจองสินค้าท่องเที่ยว อันดามันเนอร์ดอทคอม (Andamaner.com) ที่เพิ่งเปิดดำเนินการเมื่อต้นปี 2562 และยึดเทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นตัวพัฒนาแพลตฟอร์ม โดยคุณสุรินทร์ ได้รับโอกาสจากสมาคมโรงแรมไทย ขึ้นเวทีประชุมสมาชิกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
“ทุก ๆ สเตจของการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม จะมีเจ้าเก่าบางรายที่มั่นใจในธุรกิจของตัวเองเกินไป ได้ตายไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง ในจังหวะที่เจ้าใหม่ได้เกิดขึ้นแทน เราเห็นบทเรียนการเปลี่ยนแปลงแบบนี้มาหลายยุคหลายสมัย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเมื่อถึงจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรม ความมั่นใจจนเกินเหตุไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย” และจะมีสักกี่คนที่ปรับตัวไปพร้อมกับการแข่งขันนี้ได้ทัน ขณะที่ใครบางคนกำลังตายไปพร้อมกับความมั่นใจ
ทำให้ตอนนี้หลาย ๆ ธุรกิจ อย่างเช่น กลุ่มธนาคาร กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มอี-คอมเมิร์ซ ได้ ‘ปรับตัว’ ด้วยการนำบล็อกเชนมาใช้ในการบริหารซัพพลายเชนและสินค้าคงคลังแล้ว แต่ที่น่าแปลกใจ คือ ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมยังมีการนำบล็อกเชนมาใช้น้อยมาก คุณสุรินทร์ จึงขอขยายความคำว่า ‘บล็อกเชน’ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรมให้เหล่าผู้ประกอบการได้ทำความเข้าใจ เริ่มด้วยการทำความรู้จักกับตัวตนของบล็อกเชนว่าแท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่
‘บล็อกเชน’ คือ ระบบการจัดเก็บข้อมูลข่าวสาร (Database) สอดรับกับยุคข้อมูลข่าวสารในปัจจุบัน หากผู้ประกอบการคนไหนได้รับข้อมูลเร็วที่สุด ตัดสินใจด้วยข้อมูลอย่างแม่นยำที่สุด คนคนนั้นจะเป็น ‘ผู้ชนะ’ ในทางธุรกิจ ต่างจากเมื่อก่อนที่อาจจะต้องใช้สัญชาตญาณและประสบการณ์เป็นตัวช่วย
แล้วบล็อกเชนต่างจากเทคโนโลยีอื่น ๆ อย่างไร ในเมื่อดูเผิน ๆ แล้วก็เป็นเรื่องของการจัดเก็บข้อมูลเหมือนกัน
สำหรับการจัดเก็บข้อมูลแบบเดิมนั้น เป็นการจัดเก็บด้วยระบบศูนย์รวม (Centralized) ทำให้มี ‘เจ้าภาพ’ ในการจัดเก็บข้อมูลผ่านศูนย์กลางทั้งหมด ต่างจากระบบบล็อกเชนซึ่งมุ่งส่งเสริมให้ผู้คนสามารถแข่งขันในเชิงข้อมูลทางธุรกิจได้อย่างเท่าเทียม โดย ‘ไม่มีเจ้าภาพ’ เป็นศูนย์กลางของข้อมูล เนื่องจากคนเป็นเจ้าภาพสามารถเปลี่ยนแปลงหรือบิดเบือนข้อมูลได้เสมอ และอาจก่อให้เกิดการสร้างข้อได้เปรียบหรือความไม่เป็นธรรมในการเข้าถึงข้อมูลเชิงธุรกิจได้ ผ่านการพัฒนาขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงและจำเป็นต้องใช้เท่านั้น หนุนเพิ่มความเป็นธรรมและความปลอดภัยในวงจรข้อมูลมากขึ้น ทั้งยังเพิ่มอัตราการแข่งขันอย่างเท่าเทียมยิ่งขึ้นด้วย มุ่งสู่เป้าหมาย…การพิสูจน์โครงสร้างของข้อมูลว่าเป็นจริงซึ่งกันและกัน
“วันนี้เรามีข้อมูลอยู่มากมาย เช่น ข้อมูลดิบในกระดาษ โปรแกรมเอ็กซ์เซล หรือในเซิร์ฟเวอร์ แต่เราได้ใช้ข้อมูลในการตัดสินใจเพื่อสร้างประโยชน์ในทางธุรกิจมากเพียงใด นี่คือสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องถามตัวเองว่าท้ายสุดแล้ว เรายังใช้ประสบการณ์ คำปรึกษาจากคนใกล้ชิด สัญชาตญาณ และความรู้สึกข้างใน (Gut Feeling) อยู่หรือไม่ ทั้งที่สามารถเปลี่ยนมาใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้”
คุณสุรินทร์ ย้ำชัดถึงข้อดีของระบบบล็อกเชนเพิ่มเติมว่า นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบและตัดสินใจแล้ว ยังช่วยบริหารจัดการข้อมูลให้ง่ายขึ้นแล้ว ลดความซับซ้อน ส่งผลให้การทำธุรกรรมต่าง ๆ รวดเร็วมากขึ้น เพราะมีการตัดขั้นตอนที่ล้าสมัยออกไป เพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกรรม นำเป็นสู่ ‘การลดต้นทุน’ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหัวใจของการบริหารธุรกิจเพื่อสร้างกำไร และยังช่วย ‘ลดความเสี่ยง’ ในการเกิดข้อผิดพลาด เพราะบล็อกเชนก็เหมือนโซ่ที่เชื่อมกัน โซ่ทุกเงื่อนต้องถูกต้องตรงกันถึงจะเชื่อมกันได้ หากข้อมูลไหนไม่ถูกต้องตรงกัน โซ่นั้นจะหักทันที เพื่อแสดงให้เห็นว่าข้อมูลนั้นถูกปรับแก้มาแล้วด้วยวัตถุประสงค์บางอย่าง ทำให้บล็อกเชนสามารถ ‘ลดการทุจริต’ จากการแก้ไขข้อมูลได้อีกด้วย เพราะทันทีที่มีคนมาแก้ไข บล็อกเชนจะล่มทั้งระบบ จึงวางใจเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลได้หากตัดสินใจใช้ระบบนี้
แล้วบทบาทของบล็อกเชนในธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมเป็นอย่างไร
คุณสุรินทร์ อธิบายเพิ่มเติมว่า จะช่วยแก้ไข ‘Pain Point’ ต่าง ๆ ของธุรกิจโรงแรมได้เป็นอย่างดี ทั้งปัญหาหน้าบ้าน (Front End) และหลังบ้าน (Back End) เพื่อ ‘เพิ่มรายได้’ และ ‘ลดรายจ่ายซ้ำซ้อน’ ให้กับธุรกิจ เช่น ‘การบริหารทรัพยากรมนุษย์’ เพราะปัจจุบันแรงงานในธุรกิจโรงแรมกว่า 80% เป็นพนักงานระดับปฏิบัติการ (Operation) โดยระบบบล็อกเชนจะช่วยดูข้อมูลการเข้าทำงานของพนักงาน (Time Attendance), การเปลี่ยนกะ (Shift Management) และการจ่ายค่าตอบแทน (Pay Roll) ทั้งยังวิเคราะห์ได้ว่าบุคลากรมี KPI แบบไหน สร้างประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าแต่ละคนได้มากน้อยแค่ไหน บริการดีและยิ้มแย้มหรือไม่ คุ้มไหมกับที่จ้างมา
ด้าน ‘การบริหารเงินสด’ เนื่องจากการกู้เงินมาสร้างโรงแรมมีต้นทุนสำคัญอย่างการจ่ายอัตราดอกเบี้ย ระบบบล็อกเชนก็จะช่วยจัดการข้อมูลเพื่อชี้ให้เห็นว่าการบริหารกระแสเงินสดของโรงแรมดีหรือไม่ รายงานทางการเงินที่ได้มาเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน เกี่ยวพันไปถึงการบริหารหนี้สิน รายได้ กำไร ขาดทุนว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด
นอกจากนี้ ยังมี ‘การบริหารข้อมูลเชิงธุรกิจ’ นำไปต่อยอดเชิงปฏิบัติการและการตลาด และสามารถพิสูจน์ข้อมูลได้ หากเกิดกรณีลูกค้าต้องการให้โรงแรมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้านอื่น ๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ทั้งที่สาเหตุของการเข้ารับการรักษาของลูกค้า เกิดจากสาเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรงแรมเลย พร้อมเพิ่ม ‘ความเป็นส่วนตัวของลูกค้า’ ในการจองโรงแรม ขณะเดียวกันก็ช่วยหนุนระบบลอยัลตี้โปรแกรมที่สามารถติดตามลูกค้าได้ดีขึ้น รวมถึง ‘การลดรีวิวเชิงลบ’ ผ่านการดูแลระบบรีวิวและฟีดแบ็กให้เข้ามาอย่างสมเหตุสมผลมากขึ้น เพื่อพิสูจน์ว่ารีวิวนั้น ๆ เป็นความจริง ไม่ได้ถูกสร้างหรือปลอมขึ้นมา ทั้งในเชิงบวกและลบ
“วันนี้การมีประสบการณ์อาจจะไม่ดีเท่ากับการมีข้อมูลที่เพียงพอ หากเราทำธุรกิจบนฐานการคิดและใช้ข้อมูลผ่านระบบบล็อกเชนจะช่วยแก้ไขปัญหาข้างต้นได้ทั้งหมด เพราะโครงสร้างของบล็อกเชนที่นอกจากจะเข้ามาปฏิวัติการทำธุรกิจของโลก ใครเปลี่ยนแปลงได้ทันท่วงทีก็จะเดินหน้าเติบโตต่อไปได้ ส่วนคนอ่อนแอก็จะล้มหายตายจากไป เป็นไปตามธรรมชาติและกลไกของความเป็นมนุษย์และโลก ทำให้คนแข็งแรงและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ส่วนคนที่ไม่น้อมรับการเปลี่ยนแปลงก็จะตายไป ทำให้มีคนใหม่เกิดขึ้นมา”
เหมือนกับที่ ริชาร์ด แบรนสัน ผู้ก่อตั้ง เวอร์จิน กรุ๊ป เคยกล่าวไว้ว่า “Blockchain is an economic revolution!”
ขอบคุณข้อมูลจาก : นิตยสาร Thai Hotels & Travel Vol.10 No.56
You may also like
-
เช็กสภาพ ‘ท่องเที่ยว’ เครื่องยนต์เศรษฐกิจไทยปี 2566
-
Expect The Unexpected! โรงแรมในยุคนักท่องเที่ยว ‘สร้างคอนเทนต์’
-
รอยต่อช่วงฟื้นตัวท่องเที่ยวไทย ! กับสารพัดพายุ ‘ความท้าทาย’ ครึ่งปีหลัง
-
ทัวริสต์ ‘เอเชีย & แปซิฟิก’ ดาวเด่นกู้ยอด ‘โลว์ซีซั่น’ โรงแรมไทย
-
Unlock Thailand ถึงเวลา ‘เปิดประเทศเต็มรูปแบบ!’