“แชงกรีลา-อนันตรา” ตั้งโต๊ะขาย “ครัวซองต์-กะเพราหมู” หน้าโรงแรม

โรงแรม 5 ดาวเชียงใหม่ “แชงกรี-ลา-อนันตรา” ระดมทีมเชฟตั้งโต๊ะเปิดขาย “ครัวซองต์สารพัดไส้-ข้าวกะเพราหมูคุโรบูตะ-หมูชาชู” หน้าโรงแรม สู้วิกฤตโควิดระลอกใหม่ หลังอัตราเข้าพักลดฮวบเหลือ 10% เปิดบริการทุกรูปแบบ drive thru, take away, preorder, walk in

ด้าน “แชงกรี-ลา” เผยครัวซองต์ขายเพียงชิ้นละ 40-55 บาท ล่าสุดยอดขายพุ่งเฉลี่ย1,000 ชิ้นต่อวันส่วน “อนันตรา” เล็งเปิดบริการ hot potชาบู และคัดร้านอาหารสตรีตฟู้ดเด็ด ๆ เข้ามาขายในโรงแรม

นางสาวสรัญญา บุญเต็ม ผู้จัดการแผนกสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์ โรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 รอบแรกในปี 2563 จนถึงสถานการณ์โควิดรอบ 2 ในปีนี้ (2564) ทางโรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่ ได้ปรับตัวทุกทาง

ทั้งการลดราคาห้องพักและทำโปรโมชั่นต่าง ๆ มากมาย ทั้งซื้อ 1 ห้อง แถม 1 ห้อง หรือ ฟรีอัพเกรดพร้อมอาหารเช้า แต่อัตราการเข้าพัก ณ ปัจจุบันก้อยู่ในระดับที่ไม่ถึง 20%

บ้านดุสิตธานี รวมพลังขาย ‘ข้าวไข่เจียว’ คุณภาพโรงแรม 5 ดาว

เซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์ ส่งตรงเสิร์ฟความอร่อยจากโรงแรมฯถึงมือคุณ

“เดลิเวอรี่” ส่งตรงเสิร์ฟความสุข ความอร่อย คาวมปลอดภัยถึงบ้านคุณ

ทั้งนี้ นอกจากปรับกลยุทธ์สู้วิกฤตด้วยการลดราคาห้องพักแล้ว ทางโรงแรมได้เปิดครัวให้เชฟได้ทำเมนูอาหารที่เป็น signature ของทางโรงแรม ทั้งอาหารไทยจีน และเวสเทิร์น ขายในราคาย่อมเยาให้กับลูกค้าที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่

ซึ่งได้เปิดครัวครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2563 ทำอาหารชุดเบนโตะ (Bento set)แบบ take away บริการส่งถึงบ้านลูกค้า เน้นวัตถุดิบคุณภาพพรีเมี่ยม ขายราคาเพียงชุดละ 150 บาท (ซื้อครบ 450 บาท ส่งฟรี) โดยมีเมนูให้เลือกหลากหลายซึ่งลูกค้าสามารถพรีออร์เดอร์ได้ล่วงหน้า ซึ่งเมนูที่ขายดีมาก

อาทิ ชุดข้าวเป็ดย่าง สลัดไก่ฉีกซอสขิง พร้อมขนมจีบหมู มัฟฟินช็อกโกแลต พอร์เก็ตต้า มะกะโรนีชีส มันฝรั่งอบ สลัดอกไก่ซีซาร์ ชีสเค้ก มีออร์เดอร์เฉลี่ยวันละ 20-30 ชุด

นางสาวสรัญญากล่าวต่อว่า เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่มา ทางโรงแรมยิ่งต้องเดินหน้าต่อเพื่อหารายได้ ล่าสุดได้เปิดครัวเบเกอรี่ให้เชฟได้โชว์ฝีมือทำครัวซองต์ ซึ่งเป็น signature ของทางโรงแรมอีกหนึ่งเมนู โดยระดมเชฟ 3 คน

ช่วยกันนวดและปั้นครัวซองต์ออกขายตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2564 เป็นต้นมา ในราคาชิ้นละ 40 บาท สำหรับครัวซองต์เนยสด และครัวซองต์แบบอื่น ๆ อีก 11 ชนิด ขายในราคาเพียง 55 บาท อาทิ ครัวซองต์ครีมวานิลลาและสตรอว์เบอรี่ ครัวซองต์ชาเขียวมัชฉะ ครัวซองต์คาราเมล-ถั่วอบ ครัวซองต์แฮมชีส ครัวซองต์ไข่เค็ม ครัวซองต์ไส้กรอกอิตาลี เป็นต้น

โดยเปิดขายทั้งแบบ drive thru, preorder และ walk in ตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น. ซึ่งทุก ๆ เช้าจะมีลูกค้าที่เดินทางมาซื้อด้วยตัวเองอย่างล้นหลามที่หน้าร้านบริเวณโรงแรม ต่อแถวยาวเพื่อรอรับออร์เดอร์ ยอดขายครัวซองต์เฉลี่ยวันละ 1,000 ชิ้น ทั้งนี้ อาหารทุกเมนูที่ทางโรงแรมทำออกมาขายนั้น

เน้นคุณภาพระดับพรีเมี่ยม 5 ดาว แต่ขายในราคาที่ลูกค้าเข้าถึงได้ ซื้อได้ในราคาที่คุ้มค่าเกินราคาที่จ่าย โดยลูกค้าส่วนใหญ่กลับมาซื้อซ้ำ ซึ่งทางโรงแรมต้องการใช้ศักยภาพของบุคลากรที่มีอยู่ให้ช่วยกันทำงาน สร้างรายได้ เพื่อฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้

นางสาวอภิชญา บุญโสภิญ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์และอีเวนต์ โรงแรมอนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท แอนด์ สปากล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์โควิด-19 รอบที่ 2 ได้ส่งผลกระทบต่อทางโรงแรมค่อนข้างมาก มีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 10% ซึ่งในช่วงโควิด-19 รอบแรก (ปี 2563)

ทางโรงแรมจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานถึง 50% ปัจจุบันเหลือพนักงาน 150 คน จึงต้องปรับกลยุทธ์ในการสร้างรายได้ให้เข้ามาทุกวัน เพื่อรอเวลาให้ลูกค้ากลับคืนมาเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ โดยได้เริ่มเปิดขายอาหารโดยให้เชฟของทางโรงแรมทำเมนูอาหารจานเดียว ขายในราคาเพียงกล่องละ 69 บาท

เบื้องต้นนำเสนออาหารสไตล์เอเชียน ทดลองตลาดด้วย 3 เมนู ได้แก่ ข้าวกะเพราหมูคุโรบูตะ ข้าวหมูชาชู ข้าวหน้าเป็ด พร้อมซอสและซอสหม่าล่า ที่เป็นสูตรเฉพาะของทางโรงแรม นอกจากนี้ยังมีเมนูครัวซองต์กะเพราหมูและครัวซองต์หมูหม่าล่า ซึ่งทุกเมนูเน้นวัตถุดิบพรีเมี่ยมระดับ 5 ดาว

โดยทุกเมนูเป็นเมนูที่ทำขายอยู่แล้วในโรงแรม พร้อมทั้งเตรียมให้เชฟทำเมนูใหม่ ๆ เพิ่มอีกหลายเมนู

ขณะเดียวกันทางโรงแรมยังเตรียมเปิดบริการเมนู hot pot ชาบู ภายในโรงแรมด้วยเร็ว ๆ นี้ เพื่อเพิ่มฐานตลาดลูกค้าในท้องถิ่นเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดบริการ sunday brunch ในแนวสตรีตฟู้ด เน้นอาหารในท้องถิ่นเชียงใหม่ โดยจะคัดสรรร้านอาหารริมถนนหรือ street food ให้เข้ามาบริการลูกค้าภายในโรงแรม

ซึ่งลูกค้าจะมีทั้งกลุ่มต่างชาติ expat ที่อาศัยอยู่ในเชียงใหม่ และลูกค้าในท้องถิ่น โดยทางโรงแรมคาดว่าราวไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ (2564) สถานการณ์การท่องเที่ยวอาจเริ่มดีขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/local-economy/news-614370

kanokkan

See author's posts